บริษัท Music plus Cinema จำกัด ตัวแทนจำหน่าย Bowers & Wilkins อย่างเป็นทางการได้วางตลาดลำโพงรุ่นใหม่สุดคือ 600 Series มาตั้งแต่ต้นปีนี้ อันมีรุ่น 603, 606, 607 และ HTM6 Centre Channel ซึ่งในทุกรุ่นได้ใช้ตัวขับเสียงกลางต่ำแบบใหม่ ด้วยไดอะแฟรม Continuum Cone ถือว่าเป็นวัสดุพิเศษที่ได้ใช้อยู่ในลำโพง 700 Series และรุ่นสูงสุด 800 Diamond Series
และการเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ การใช้ทวีตเตอร์โดมใหม่ล่าสุด แบบ Decoupled Double Dome Tweeter ด้วยการอัพเกรด แม่เหล็กเส้นแรงสูง “นีโอไดเมียม” มาใช้อย่างลงตัวกลมกลืนกับตัวขับเสียงกลางต่ำ
ที่น่าแปลกใจคือ ทางผู้ผลิตลำโพง Bowers & Wilkins ยังใช้ขั้วต่อแบบไบร์ไวริ่งในลำโพงรุ่นเล็กอย่าง Bowers & Wilkins 607 นี้ด้วย
แต่สิ่งที่ผมประทับใจอย่างไม่เคยเปลี่ยนของลำโพง B&W คือ ไม่ว่าจะย้ายฐานการผลิตไปที่ใด ความประณีตของตู้ลำโพง งานประกอบชิ้นส่วน ยังคงดีเยี่ยมเสมอ ไม่เคยมีอะไรให้เราตำหนิได้
Bowers & Wilkins 607 นั้น มีวูฟเฟอร์ Continuum Cone ขนาด 5 นิ้ว และทวีตเตอร์โดมโลหะแบบใหม่ล่าสุดขนาด 1 นิ้ว ให้การสนองตอบความถี่ โดยรวม 52Hz – 28kHz ±3dB และมีความไวกลางๆ ที่ 84 dB spl (2.83Vrms,ที่ระยะหนึ่งเมตร)
ขนาดของตู้ลำโพงคือ สูง 300 มม. กว้าง 165 มม. และมิติด้านลึก 207 มม. ถือว่าเป็นลำโพงตู้ขนาดเล็ก เหมาะกับวางหิ้ง และวางบนขาตั้ง (ถ้าจะให้ดี แนะนำใช้ขาตั้งของ B&W เอง ครับ)
On Test
มาในยุคนี้ไม่จำเป็นแล้วที่จะต้องอารัมภบทมากมาย ทุกท่านชอบอ่านอะไรที่รวบรัด สั้น เข้าใจง่าย ดังนั้นผมจะเข้าไปสู่โหมดการทดสอบลำโพงเลยทีเดียว ว่าได้ผลอย่างไรบ้าง
การเบิร์นลำโพง ระยะของการเบิร์นที่เหมาะสมที่สุดก็คือ 200 ชั่วโมงโดยเหตุที่ว่า Continuum Cone นั้น เป็นกรวยลำโพงวัสดุสังเคราะห์ที่มีความแกร่ง และต้องการระยะเวลาในการผลักอากาศ ด้วยความยืดหยุ่นอยู่พอสมควร
จากแรกๆ ที่กรวยมีความตึงตัว ไปจนถึงคล่องตัว คือจุดหมายที่สำคัญ
เหตุนี้ ระยะการเบิร์นเริ่มต้นไปจนถึง 70 ชั่วโมงจะเริ่มเห็นเค้าลางของเสียงที่ลงตัวมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของ Tonal Balanced ที่ราบเรียบ โทนอบอุ่นและราบรื่นฟังสบายหูมาก
ลำโพง B&W นั้น ทุกรุ่นจะมีความโดดเด่นอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเสียงกลางของลำโพง แม้ว่าจะยังไม่ได้เบิร์น แต่เสียงกลางก็จะให้คุณภาพที่ดีมาก มีการแสดงตัวตนของเสียงร้อง ดนตรีช่วงความถี่กลางแม่นยำ แจ่มชัด ต้องเรียกว่าไม่เคยผิดหวังแม้แต่น้อย
การเบิร์นลำโพง B&W 607 นี้ แม้จะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากกว่าลำโพงวางหิ้งโดยทั่วๆ ไป แต่ผมก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะใช้เวลาเหล่านั้นอย่างมีประโยชน์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของลำโพงอย่างแท้จริง
วิธีการเบิร์นก็คือให้เปิดเพลงคลาสสิก เป็นหลักเลยครับ แล้วก็ยืนพื้นที่ระดับความดัง ที่เราฟังจริงๆ
เปิดวนเวียนอยู่เช่นนั้นแล้วนับชั่วโมงไปเรื่อยๆ วันละกี่ชั่วโมง ก็ว่ากันไป เมื่อรวมแล้วเกิน 70 ชั่วโมงขึ้นไป มันจะเริ่มเข้าสู่ความลงตัว และดีที่สุดก็ยังยืนยันว่าต้องเกิน 200 ชั่วโมงเพื่อให้กรวยลำโพงกลางต่ำ และทวีตเตอร์ทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุล
อย่างที่ผมเรียนเบื้องต้นนะครับการฟังเพลงร้องจำพวก ป็อป แจ๊ซ บอกได้เลย ว่า 607 เป็นลำโพงที่สนองตอบย่านความถี่จากกลางไปหาต่ำสุดได้ดีมาก มันจึงเป็นเสียงที่ไพเราะถูกใจได้ง่ายมาก พร้อมทั้งให้เสียงเบสที่แน่นอิ่มพอสมควรเลยทีเดียว แม้ว่าตัวขับเสียงต่ำมีขนาดแค่ประมาณ 5 นิ้ว ทว่าเบสไม่แพ้ลำโพง 10 นิ้วครับ!
นี่อาจจะเป็นผลที่มาจากการพัฒนาของการออกแบบ และวูฟเฟอร์รูปแบบใหม่ Continuum Cone ที่ไม่เหมือนใครเลยในท้องตลาด แสดงผลของเสียงต่ำแน่นอิ่มจริงๆ
การวางลำโพงบนขาตั้ง ควรให้ห่างผนัง อย่างต่ำ 80-150 เซนติเมตร เรียกว่าจุดสมดุลของย่านความถี่เสียงต่ำก็จะเกิดขึ้นอย่างเรียบร้อยสวยงาม คู่เคียงไปกับรายละเอียดเสียงแหลมที่ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวสำหรับลำโพงราคานี้ (คือในช่วงโปรโมชั่นราคาของ B&W 607 จะไม่เกิน 26,000 บาท)
ในการทดสอบ ผมตั้งลำโพงบนขาตั้งไม้ และขาตั้งโลหะ Target Audio MR-60 สูง 60 ซม. ห่างกันประมาณ 1.65 เมตร ไม่มีการโทอินหรือเอียงหน้าเข้าหากัน ระยะห่างจากผนังหลังอยู่ที่ 1.5 เมตร และห่างผนังด้านข้างประมาณ 1.2 เมตร ตรงจุดนี้ ถือว่าดีที่สุดในห้องทดสอบ The Wave Online (ขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 4.2 x 7 เมตร)
สำหรับแนวทางหรือสไตล์เสียงกลางแหลมของ 607 อาจมีบางส่วนคล้ายเดิมๆ ในสไตล์ของ Bowers & Wilkins เพียงแต่ถ้าเทียบเคียงกับรุ่นเก่า ก็ต้องบอกว่า ได้ก้าวขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ด้วยช่วงปลายเสียงแหลมสุด จะตอบสนองความถี่ได้ดีขึ้น และให้รายละเอียดระยิบระยับกว่าครับ
ผมชอบความรู้สึกอย่างหนึ่งก็คือเมื่อฟังลำโพง B&W 607 แล้วเราจะรู้สึกเหมือนกับว่า ทุกเสียงเป็นความจริง สัมผัสได้ แต่มีความผ่อนคลาย เป็นมิตร เป็นกันเอง ฟังได้โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ยิ่งฟังยิ่งเพลินแบบที่เวลาผ่านไปยาวนานโดยไม่รู้ตัว
นี่คือความน่าประทับใจของลำโพงแบรนด์นี้
เราสามารถรับรู้ได้ในเสียงดนตรี และเสียงนักร้อง คล้ายกับว่าจับต้องได้โดยง่ายดาย ปราศจากเสียงแบบ “เมทัลลิคซาวนด์ “ ระคายหู ที่แน่นอนคือ 607 เสียงผ่อนปรน เป็นกันเอง แต่เวทีเสียงกว้างลึกอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว มีเสน่ห์ปลายเสียงแหลมที่ “สะอาดมาก”
เมื่อผมเทียบเคียงกับลำโพง 800 ซีรีย์ รุ่นวางขาตั้ง ก็คือ B&W 805 ไดมอนด์ แน่นอนว่ามันคงสู้กันไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมชอบ ก็คือว่าลักษณะอิมเมจของเสียง หรือจุดตำแหน่งดนตรีนั้น 607 มีความคล้ายกันกับ 805 Diamond มาก จนรู้สึกว่าตำแหน่งแม่นยำในแนวทางเดียวกับลำโพงระดับแสน เหมือนพี่น้องที่เดินตามกันมาแม้จะต่างกันในรายละเอียดอยู่ก็ตาม
ขอแนะนำว่าควรที่จะเปิดหน้ากากของลำโพงออกในการฟังเพลงทุกครั้ง เพราะจะให้ image เสียง รายละเอียดได้ดีกว่าการปิดหน้ากาก
การต่อลำโพงเล่นในแบบไบร์ไวร์ ช่วยให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นประการหนึ่งคือ ปลายเสียงแหลมช่วงบน มีลักษณะที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
แต่ผมไม่ได้แนะนำว่าท่านจำเป็นต้องเล่นแบบใช้สายลำโพงสองชุดเช่นนี้นะครับ เนื่องจากข้อแรกคือ เปลืองสายลำโพง ข้อที่สองคือแอมปลิไฟล์นั้นต้องมีคุณภาพที่ดีจริงๆ เท่านั้น สำหรับระบบ Bi-wiring
ขาตั้งลำโพงที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขาตั้งไม้อย่างดีช่วยทำให้รู้สึกมีความอบอุ่นนุ่มนวลของเสียงมากขึ้น แต่หากต้องการความชัดเจน เสียงที่เต็มไปด้วยรายละเอียดความแม่นยำแล้ว ขาตั้งโลหะย่อมดีกว่า
ถ้าแนะนำได้ก็คงอยากให้ท่านได้ใช้ขาตั้งลำโพงของ Bowers & Wilkins เองเป็นดีที่สุดครับ
Bowers & Wilkins 607 เป็นลำโพงตู้ขนาดย่อมที่น่าประทับใจมาก รังสรรค์การออกแบบ และใส่เทคโนโลยีของลำโพงในยุคใหม่ที่ดีเยี่ยม สามารถฟังเพลงได้หลากสไตล์ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทย หรือเพลงสากล ตั้งแต่สไตล์ ป็อบ แจ๊ซ ร็อค ไปจนถึงคลาสสิคที่บันทึกมาดีๆ ทั้งแผ่นซีดี และไฟล์เพลง ก็สามารถฟังได้อย่างอิ่มเอมใจครับ
Reference
Rotel CD 1572 CD Player
Rotel RA1572 Integrated Amplifier
Magnet ELITES Streaming Player
NAD S300 Integrated Amplifier
Marantz PM 15 S2 Integrated Amplifier
สนใจลำโพง Bowers & Wilkins 607 สามารถทดลองฟังได้ที่ตัวแทนจำหน่ายลำโพงอย่างเป็นทางการของ บริษัท Music plus Cinema จำกัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 681 7500-4
