Audio Cables Story Part II
Zensonice Melodic อุปกรณ์ควบคุมความแม่นยำ สัญญาณเสียงจากลำโพง และแอมปลิไฟร์ของคุณ
บทความตอนนี้ จะขอกล่าวถึงอุปกรณ์ประเภทเดียวกันกับสายนำสัญญาณ แต่ได้สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ สำหรับเสริมความแม่นยำให้กับคุณภาพเสียงของลำโพง อาจจะพูดได้ว่าเป็นส่วนขยายที่คั่นระหว่างสายลำโพงและภาคขยายนั่นเอง จะเรียกว่าเป็นสายลำโพงก็ไม่เชิง จะว่ามิใช่สาย ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ
เพราะองค์ประกอบนั้นมีสาย มีขั้วต่อสาย (มีทั้งแบบก้ามปู หรือแบบขั้วบานาน่าปากฉลามให้เลือก) และขั้วอินพุตขาเข้าที่เสียบต่อสายลำโพงกับบานาน่าอินพุตได้
อุปกรณ์ชนิดนี้ ทำให้ผมนึกถึงสายลำโพงในอดีตของแบรนด์ดังที่มีราคาระดับชุดละหนึ่งล้านบาท มีกระเปาะ และโวลุ่มสำหรับปรับค่าเฟสของสายลำโพง สายลำโพงแบบดังกล่าวต้องถือว่า มีช่วงต่อที่ทำการปรับค่า Phase เอ้าต์พุตจากแอมป์ไปสู่ลำโพงได้
อุปกรณ์ที่ผมกล่าวถึงเบื้องต้นคือ Zensonice รุ่น Melodic อันเป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไทย ที่คร่ำหวอดอยู่กับการโมดิฟายด์ และออกแบบสายนำสัญญาณ ที่ดีไซน์มาเพื่อฉลองครบรอบ 4 ปี Zensonice
Zensonice เป็นแบรนด์ที่อาจจะเรียกว่าใหม่ก็จริง แต่ก็ชำนาญการเรื่องสายสัญญาณ และอุปกรณ์เสริมเสียงมายาวนาน มีกลุ่มผู้บริโภคให้ความสนใจ และมีแฟนคลับใช้สินค้าอยู่จำนวนมากทีเดียว
ผมรู้จัก คุณแหลม หรือคุณอัครเดช อรุณศิริวงศ์ มานานเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่ค่อยมีโอกาส ทดลองใช้สินค้าของคุณแหลม และทีม Zensonice มากนัก แต่ก็ได้ยินออดิโอไฟล์ส่วนหนึ่ง กล่าวถึงบ่อยๆ ถึงแนวคิดและคุณภาพสินค้าที่ได้รับการตอบรับ จากนักเล่นเครื่องเสียง
กระทั่งได้คุยกันจริงจัง คุณอัครเดชก็เลยส่งสินค้า Melodic มาให้ลองใช้งานดู ผมฟังแล้ว เอ้อ เข้าท่าดี และดูจากการออกแบบ หลักการ การเลือกใช้อุปกรณ์ น่านำมาพูดถึงครับ
ผมเรียนท่านผู้อ่านก่อนว่า หลักการของระบบแอมป์ขยายเสียงและลำโพงนั้น หากเรามาย้อนดูกันจริงๆ ก็ยังมีจุดที่เปราะบางอยู่ไม่น้อย ที่สามารถเสริมให้คุณภาพเสียงดีขึ้นได้ ซึ่งบางคนอาจจะคิดออก บางคนอาจจะคิดไม่ออก หรือนึกไม่ถึง หรือคิดว่าไม่จำเป็นก็ได้
ขออธิบาย ระบบเครื่องเสียง แบบบ้านๆ นะครับ
เริ่มต้นกันที่แอมป์ขยายเสียงทุกรูปแบบ เมื่อมันรับเอากระแสไฟขาเข้า เป็นไฟกระแสสลับ AC มันก็จะนำเอาไฟดังกล่าวมาทำเป็นกระแสไฟตรง ทำการเลี้ยงทุกวงจร ในเครื่อง หลังจากนั้นการส่งกระแสออกทางสายลำโพงไปสู่ลำโพง ตรงนี้ไฟจะกลับไปเป็นกระแสสลับอีกครั้ง
ถึงได้บอกว่า เมื่อไร มีไฟตรง DC รั่วออกมาจากแอมป์ ไปยังลำโพง เมื่อนั้นลำโพงเจ๊งกลับบ้านเก่าครับ
คนออกแบบแอมป์ จึงต้องตระหนักในเรื่องนี้อย่างมาก
เอาละ เมื่อเราต่อสายลำโพงจากแอมปลิไฟร์ไปยังตัวลำโพง ลำโพงก็จะทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นต้นกำเนิดทางไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
นั่นก็หมายความว่าลำโพงมีแม่เหล็ก มีคอยล์ หรือขดลวด เมื่อได้รับกระแสไฟสลับ จากสายลำโพง ก็จะทำปฏิกิริยาผลักดันให้กรวยลำโพงทำงานนั่นเองครับ อธิบายอย่างนี้คงไม่งง
ทีนี้ การส่งกระแสหรือสัญญาณมายังลำโพงนั้น ไม่ได้หมายความว่า พลังไฟมาสิ้นสลายที่ลำโพงทั้งหมด บางส่วนที่เหลือ มันจะไหลย้อนกลับไปยังขั้วบวก ลบ ของแอมป์ด้วย โดยเฉพาะกระแสกราวนด์ ที่ถูกป้อนกลับจากลำโพง (ground feedback) มีผลอย่างมาก
นี่คือเหตุผลที่แอมป์ไฮเอ็นด์บางแบรนด์ สร้างวงจรหรือระบบเอ้าต์พุตทรานสฟอร์เมอร์บางแบบมาให้ส่งกระแสสัญญาณอย่างหมดจดเท่าที่จะเป็นไปได้
อันนี้ คือคำอธิบายบ้านๆ ของผม ที่มิใช่นักอิเล็คทรอนิกส์
จุดอ่อนตรงนี้ มาก น้อย ขึ้นกับแอมปลิไฟร์ และลำโพงด้วยกันทั้งคู่ เพราะทำงานร่วมกัน ทั้งขั้วบวก และลบ จึงมิได้สมบูรณ์แบบว่า หมดจดผ่องแผ้วนพคุณ(นะ)
ทาง Zensonice ถือเอาฤกษ์ชัยครบรอบ 4 ปี จัดทำ ”ตัวต่อ” เพื่อมาช่วยปรับสมดุลระหว่าง ขั้วบวก ขั้วลบ สายลำโพง ซึ่งเขาก็ได้อธิบายหลักการที่สอดคล้องน่ารับฟังว่า
Zen Melodic คือ อุปกรณ์ส่วนขยายต่อเพิ่ม จุดประสงค์เพื่อเพิ่มสมรรถนะของสายลำโพงเดิมในระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการใช้งาน จำนวน 1 ชุด (4 ชิ้น) ต่อการใช้งานกับลำโพง 1 คู่ ประกอบด้วย สายขั้วบวก 2 เส้น สายขั้วลบ 2 เส้น
หลักการทำงานพื้นฐานของ Zen Melodic จะแบ่งเป็น 2 หน้าที่ คือ ขั้วบวก ( Resolution Extender) จะทำหน้าที่ จัดระเบียบและปรับปรุงรูปคลื่น (Amplitude) ของสัญญาณที่ส่งมาจาก Amplifier ผ่านสายลำโพงขั้วบวก ของสายเดิมให้ใกล้เคียงรูปคลื่นในอุดมคติ
และ Zensonice เขาจะใช้หลักการ Resolution Extending Methodology ในการขยายรายละเอียดของอนุภาคในแต่ละช่วงความถี่ของ Audio Bandwidth ให้มีรายละเอียดที่สูงขึ้นมากขึ้น ให้เข้าใกล้ความเสมือนจริงมากขึ้น และในการนำสัญญาณที่ได้ปรับปรุงส่งผ่านไปยังลำโพง
นี่จะเป็นการผสมผสานตัวนำต่างชนิด ต่างขนาด ต่างประเภท ผสมผสานกันอย่างลงตัว เพื่อครอบคลุม Audio Bandwidth ให้กว้างที่สุด และมี Tonal Balance ที่สมดุล เพื่อไม่เกิดการบิดเบือน หรือเปลี่ยนแปลงบุคลิกเสียงเดิมของระบบ พร้อมด้วยวิธีการชิลด์เฉพาะเพื่อป้องกันสัญญาณกวน ที่อาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยภายนอกรอบข้างในระหว่างการเดินทางของสัญญาณ
มีการทำ Surface treatment ให้กับอุปกรณ์เชื่อมต่อทุกตัวทุกจุดทุกตำแหน่ง (ขั้วก้ามปู / บานาน่า ที่สั่งจากโรงงานที่ทำ OEM ให้กับสายลำโพงแบรนด์เนมราคาแพง ชุบด้วยโรเดี้ยมที่มีความเที่ยงตรงสูง
ส่วนขั้วลบ (Ground Control) จะแบ่งหน้าที่หลักเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ Ground Moderation section (ท่อกระปุกท่อนแรกที่อยู่ด้านขั้วก้ามปู) จะทำหน้าที่คัดกรองและปรับสภาพของกระแสกราวด์ที่ถูกป้อนกลับจากลำโพง (Ground Feedback) ปรับปรุงรูปคลื่นและAmplitude ให้สมดุลเพื่อให้ได้กระแสกราวด์ที่ไม่บิดเบือน
แล้วส่งผ่านด้วยตัวนำทองแดงองศาต่ำที่มีความบริสุทธิ์สูงหลายขนาดผสมผสานที่ส่งผ่านกระแสกราวด์ที่ฉับไวเที่ยงตรง ไปยัง ส่วนที่ 2 Ground Filter section (กระปุกด้าน binding post) จะทำหน้าที่เป็นฟิลเตอร์กำจัดสิ่งปนเปื้อนในกระแสกราวด์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการป้อนกลับเพื่อให้ได้กระแสกราวด์ที่สะอาด และมีคุณภาพก่อนส่งผ่านไปยังสายลำโพงเดิมในระบบเพื่อส่งกลับไปยัง ภาคขยายของแอมป์ Amplifier ซึ่งจะมีผลดีแสดงออกมาในด้าน ความสงัด ของพื้นเสียง (Background Noise)
เอาละ นี่คือหลักการส่วนของจริง ทำออกมาได้แค่ไหนอย่างไร ผมจะมาสรุปจากการทดลองฟังดังต่อไปนี้ครับ
ผลการทดสอบ
รูปลักษณ์ การออกแบบดีไซน์ การห่อหุ้มฉนวน นับว่า “เข้าตากรรมการ” มีความสวยงาม ดูเข้มขลังไม่น้อยละครับ ตามรูปที่ท่านได้เห็นด้านบน อุปกรณ์ทุกอย่างคัดเกรด คุณภาพสูง ระดับเดียวกับสินค้าไฮเอ็นด์ ที่มีความแข็งแรงอย่างมาก ผมนำเอาสายลำโพง ที่ปลายสายเป็นขั้วแบบบานาน่า มาเสียบต่อเข้ากับขั้วด้านหลังของ Zen Melodic (ต้องไม่พลาด ว่าอันไหนบวก อันไหนลบ นะครับ เขามีกำหนดมาแล้ว) แล้วต่อเข้ากับขั้วลำโพงด้วยปลายขั้วของ Zen Melodic ที่เป็นแบบก้ามปู ก็เป็นอันเรียบร้อย พร้อมใช้งาน พูดให้ง่ายเข้า ปลายสายลำโพงจะมี Zen Melodic เป็นท่อนต่อ นั่นเอง ควรขันให้แน่นหนานะครับ อย่าให้หลวมคลอน
เมื่อทดสอบฟัง น่าตื่นเต้นดีครับ คุณภาพเสียงฟังออกไม่ยากครับ เพราะลำโพงของผม คุ้นหูอยู่ทุกวัน ทั้ง Harbeth P4ESR 40th, ลำโพง KEF LS3/5a Anniversary, ลำโพง Gauder Akustik Arcona 40, ลำโพง Garbeth Monitor 30.2 และ Tannoy Stirling ผ่านจากแอมป์ Sugden IA4 Anniversary และ Octave V70 Class A
สายลำโพงผมใช้ตระกูลพื้นฐาน คือ Supra Ply 3.4 และสลับกับ TQ Ultra Blue II
ใช่ครับ แรกสุดหลังจากฟังผ่านไป 5-7 นาที สักสองสามเพลง ก็จับรายละเอียดได้ว่า ข้อดี คือเจ้า Zen Melodic คือไม่มากระตุ้นเสียงเฉพาะบางความถี่ให้เสมือนแปลกไปจากเดิม คือสามารถรักษาดุลเสียงซิสเต็มไว้ได้ดีครับ และจุดที่เด่นขึ้นอย่างมากคือ อิมเมจเสียง (Image) จุดตำแหน่งดนตรี แม่นมาก
อันนี้ต้องขอบอกว่า Zen Melodic ให้ความแม่นจริงๆ พูดได้ว่า แทบจะมองเห็นชิ้นดนตรี อันนี้น่าจะมาจาก ผลของเสียงโดยรวมมีความสงัดมากยิ่งขึ้น นั่นเอง
ส่วนในแง่ Sound Stage หรือเวทีเสียง รักษาความโอ่อ่าดั้งเดิมของดนตรี ลักษณะการบันทึกเสียงของต้นฉบับเพลงที่เราฟัง ได้คงเดิม มีกว้าง มีลึก มีตื้นเป็นเชิงชั้น แต่ไม่ได้ไปขยายเวทีเสียงให้เกินเลย แต่เพดานเสียงด้านสูงดีมาก
ต่อมาผมชอบช่องไฟแต่ละชิ้นดนตรี ฟังโอ่อ่า ชัดขึ้น การเรียงตัวชิ้นดนตรี เมื่อฟังแล้วให้ความมีชีวิตชีวา เร้าใจ เพียงเท่านี้ การทำหน้าที่ควบคุมสัญญาณระหว่าง แอมป์ ไปยังลำโพงนับว่า เพอร์เฟ็ค ดีจริงและคุ้มค่ามากครับ
เคล็ดลับที่อยากเสริมไว้ตรงนี้ก็คือ เมื่อใช้ Zen Melodic คุณจะได้ยินเสียงดนตรีช่วงแผ่วเบามีรายละเอียดชัดขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญครับ
Zensonice Melodic สามารถทำงานตามจุดประสงค์ได้อย่างดี สำหรับการเป็นอุปกรณ์ ช่วยบาล้านซ์ ส่วนเกินของกระแสไหล วนกลับ ระหว่างแอมป์และลำโพง ที่หลายๆ คนมองข้าม
ช่วยสร้างแบนด์วิธของเสียงให้กว้าง และมี Tonal Balance ที่สมดุล สามารถควบคุมความแม่นยำของสัญญาณเสียงจากลำโพง และแอมปลิไฟร์ได้อย่างคุ้มค่า ใช้ได้กับเครื่องเสียง ลำโพงทุกระดับ โดยเฉพาะมิดเอ็นด์ไปจนถึงไฮเอ็นด์ครับ
Zensonice Melodic ผลิตภัณฑ์ฉลองครบรอบ 4 ปี มีโปรโมชั่นตอนนี้ ราคา 9,444.- บาท / ชุด ครับ (ราคาปกติ 12,500 บาท)
เป็นอุปกรณ์ที่น่าจะท้าทายหูของออดิโอไฟล์ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ขอบอกไว้เลยว่า ไม่ลองฟังแล้วจะเสียดายนะครับ!!!
สนใจ Zensonice Melodic ติดต่อสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณอัครเดช อรุณศิริวงศ์ โทร 081-446-7141
