harman/kardon ENCHANT 1300
ซาวนด์บาร์โฮมเธียเตอร์ระดับพรีเมี่ยมแห่งยุคสมัย
ผมทดสอบซาวนด์บาร์ในปีที่ผ่านมาจนถึงกลางปีนี้ สิบกว่ารุ่นเท่านั้น เลือกเฉพาะที่น่าสนใจจริงๆ เพราะสินค้าประเภทนี้ มีออกมามากมายหลายหลากโมเดล แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นย่อยๆ ที่ราคาประหยัด และใช้ชิปดีเอสพีแบบง่ายๆ ในการสร้างเสียงแมตทริกซ์เซอร์ราวนด์ ไม่มีการแบ่งแยกลำโพงยิงเสียงหลายทิศทางจริงๆ ในแบบที่เราต้องการ
และที่สุดผมก็มาพบมิติใหม่ของดีไซน์หรูจาก harman/kardon ENCHANT 1300 ซาวนด์บาร์โฮมเธียเตอร์ที่ครบเครื่อง ชนิดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ และจากตอนทดสอบอย่างจริงจังจากภาพยนตร์บลูเรย์ 4K และการใช้งานตามการดีไซน์ออกแบบมาอย่างหลากหลาย ทำให้พึงพอใจอย่างยิ่งว่า เราพบเจอโฮมเธียเตอร์ซาวนด์บาร์แห่งยุคสมัยเข้าแล้วครับ
ฮาร์แมน เปิดตัว ENCHANT ได้อย่างอลังการในระดับพรีเมี่ยมถึงสองรุ่น คือ ENCHANT 800 และ ENCHANT 1300
ซึ่ง ENCHANT 1300 เป็นรุ่นใหญ่ที่ผมได้มีโอกาสนำมาทดสอบครั้งนี้ โดยดีไซน์ตัวตู้ซาวนด์บาร์จะมีความเพรียวบาง ยาวหนึ่งเมตร และเกือบอีก 12 เซนติเมตร
แต่ความหนาหรือสูงเพียงแค่หกเซนติเมตร ลึกราวๆ สิบสองเซนติเมตรเศษ เท่านั้นครับ หรูหราด้วยปุ่มคอนโทรล ด้านบน และมีขอบเดินเส้นสีเงินแวววาวเมื่อกระทบแสง ในขณะที่มีการมนมุมโดยรอบ และมีผ้าโปร่งสีเทาหุ้ม งามจริงๆ บอกตรงๆ ว่าเห็นความพรีเมี่ยมแล้วรักเลย
เป็นระบบซาวนด์บาร์ที่สนองตอบความถี่ได้ตั้งแต่ 70 – 20 kHz และมีกำลังขับสูงสุดถึง 240 วัตต์ ในขณะที่ใช้งานในห้องทั่วไปจะมีอุณหภูมิอุ่นเล็กน้อยจากการระบายความร้อนของภาคขยาย
ส่วนตัวซาวนด์บาร์มีการวางลำโพงหรือตัวขับเสียงแบบแยกทิศทางด้านในตู้ แบบจัดเต็มถึง 13 ไดรเวอร์เลยครับ ! ไม่ธรรมดา
ได้แก่ลำโพงฟูลเร้นจ์ขนาดสองนิ้วจำนวน 10 ตัว แบ่งกันทำหน้าที่ แชนแนลหลักซ้ายขวา ข้างละ 4 ตัว รวมแปดตัว
ลำโพงฟูลเร้นจ์อีก 2 ตัว ทำงานควบกับทวีตเตอร์ขนาด .75 นิ้ว ( 1 ตัว)ทำหน้าที่กระจายเสียงเซ็นเตอร์ แชนแนล และทวีตเตอร์ ขนาด 1 นิ้วอีก 2 ตัวที่ฝังในหลุมปากฮอร์น ทั้งสองข้าง จะทำหน้าที่กระจายคลื่นเสียงรอบทิศ Surround
แต่โดยรวมตัวขับทุกตัวจะประสานการทำงาน ทั้งเสียงหลัก และแยกขาดจากกันโดยการควบคุมชิปดีเอสพีภายในตู้ให้สนองตอบตามภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงมาแบบ 5.1 แชนแนล ทั้งดอลบี้ และดีทีเอส
กรณีดูภาพยนตร์ระบบเสียงที่มีเพดานเสียงด้านบน หรือ Dolby Atmos คุณก็จะได้สัมผัสเสียงล้ำลึกของระบบออพเจ็คเบสได้ด้วยเช่นกัน เพราะจะมีการรับสัญญาณเพดานเบื้องสูงที่มิกซ์มาสังเคราะห์กับระบบเซอร์ราวนด์หลักซ้ายขวาให้สนองตอบกับภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงมาจากสตูดิโอ แต่ไม่มีการถอดรหัส Dolby Atmos โดยตรง
อาจมีข้อถกเถียงกันว่าแล้วมันจะสู้ระบบซาวนด์บาร์ที่ระบุตัวเองเป็นดอลบี้แอทมอสได้หรือเปล่า? ก็ต้องบอกว่าผมอยากท้าทายให้คุณได้ฟังกันเองดีกว่าแล้วจะรู้ว่า ทำไมแค่ 5.1 ของ harman/kardon ENCHANT 1300 ถึงยอดเยี่ยมน่าทึ่ง และพลังเสียงเหลือพอภายในห้องขนาดใหญ่และเหนือกว่าอีกหลายๆ ซาวนด์บาร์ในท้องตลาดทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณภาพเสียงที่คุณได้ยินจริงๆ
เพียงแค่ในการใช้งานนั้น ต้องวางตัว ENCHANT 1300 ให้ถูกลักษณะ คือวางแนบฐานล่างทีวี หรือต่ำลงได้ไม่เกินหกนิ้ว และอย่าให้มีอะไรมาขวางกั้นการทำงานของลำโพงที่ยิงเสียงออกจากปากฮอร์นด้านข้าง เท่านี้เองครับ เรียกว่าห้ามเอาไปใส่ช่องตู้วางทีวีเด็ดขาด
เรามาพิเคราะห์ช่องต่อของซาวนด์บาร์ จะมีช่องเสียบปลั๊กไฟเอซี ช่องต่ออินพุต แบบ HDMI จำนวนสามอินพุต และหนึ่งเอ๊าพุต ช่องต่อ USB type A ช่องอินพุตออพติคัล opical สำหรับสัญญาณเสียงดิจิตอลออดิโอจากเครื่องเล่นไฟล์เพลง และทีวี ช่องต่อนาล็อก AUX จากเครื่องเล่นภายนอกแบบมินิแจ็ค
การต่อใช้งานผมใช้เครื่องเล่น บลูเรย์ Sony Ultra HD UBP-X700 และจอทีวี Sony KD-65X8500G/S ขนาด 65 นิ้ว โดยวางซาวนด์บาร์ไว้หน้าทีวี ต่อสัญญาณขาออกของ HDMI ทางช่อง HDMI ARC หนึ่งเส้น และจากตัวเครื่องบลูเรย์มายัง HDMI1
ตามปกติซาวนด์บาร์รุ่น ENCHANT 1300 นี้สามารถใช้งานได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องใช้ซับวูฟเฟอร์ แต่ถ้าจะให้ได้คุณภาพดีสมความตั้งใจ ขอให้ใช้ร่วมกับซับวูฟเฟอร์ ENCHANT ของมันเองด้วยจะดีและสมบูรณ์ที่สุด
สำหรับดีไซน์ซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย ก็ต้องถือว่าสวยงามเข้ากันได้เป็นอย่างดีมีขนาดสี่เหลี่ยมทรงตั้งและมนมุมหุ้มผ้าโปร่งเทาดำเฉดเดียวกันกับซาวนด์บาร์โดยรอบ งดงามนักหนา
ซับวูฟเฟอร์จะเสริมเสียงในช่วง 35 – 160 Hz ด้วยพลังขับสูงสุดในตัว 400 วัตต์ ใช้ตัวขับเสียงต่ำขนาด 10 นิ้ว มีปุ่ม Pairing มาให้สำหรับจับคู่ซาวนด์บาร์ในเวลาไม่กี่วินาที อย่างฉับไว และหากจับคู่แล้ว(จะกดปุ่ม Pairing ที่ซาวด์บาร์ก็ได้) มันจะจดจำกันไปตลอดครับ แต่จริงๆ แล้ว หากวางในระยะทำงานมันจะจับคู่เอง อัตโนมัติโดยเราไม่ต้องกดปุ่ม Pair จับคู่ด้วยซ้ำไป
นั่นสิ ชีวิตเดี๋ยวนี้ง่ายขึ้นมากครับ
นอกจากออกแบบสำหรับการชมภาพยนตร์โฮมเธียเตอร์อย่างดีเลิศแล้ว ก็ยังสามารถใช้งานในระบบมัลติเพอร์โพสหลายรูปแบบ เช่นการฟังเพลงผ่านแฟล็ชไดร์ฟ ทาง USB ก็เสียงดีมากเลยครับ หรือเล่นผ่านทางเครื่องเล่นไฟล์เพลงพกพาจากแอพต่างๆ ผ่านทางช่อง AUX มินิแจ็ค ของตัวซาวนด์บาร์ หรือเล่นสตรีมไฟล์เพลงด้วยแอพลิเคชั่น อาทิ TIDAL ทางบลูทูธก็สะดวก รวมถึงสตรีมเพลงผ่านระบบ ไว-ฟาย ทางอินพุต Chromcast ที่ซาวนด์บาร์ ENCHANT 1300 รองรับอยู่ก็ได้ ทุกอย่างง่ายดายมีทางเลือกมากมาย
ส่วนในการใช้ Chromecast คุณต้องเชื่อมต่อ ซาวนด์บาร์เข้ากับ ไว-ฟาย ก่อนผ่านทาง Google Home จากนั้นตัว Enchant ก็จะสามารถใช้งาน Chromecast ผ่านแอพChromecast Application ต่างๆ ได้ตามสะดวก ทั้งภาพหรือเสียง
ที่ดูจะต่างไปจากซาวนด์บาร์ทั่วไป คือโหมด Audio Sync ที่จัดมาให้เป็นเสมือนศูนย์กลางความบันเทิง Entertrainment hub ทำให้การต่อเชื่อมสัญญาณต่างๆ สามารถซิ้งค์ด้านดีเลย์ของภาพ และเสียง(Sync Deley)ตรงต้องกัน และต่อเชื่อม Bluetooth ได้เสถียรเที่ยงตรงจริงๆ
ทั้งหมดนี้ harman/kardon ENCHANT 1300 เสนอมาให้พร้อมรีโมทไร้สาย และสาย HDMI แถมมาให้อีกหนึ่งเส้น ในราคา 43,900 บาท
บอกเลยอ่านแค่ข้อมูลเบื้องต้นแล้วหลายคนบอก แพง! แต่หากได้สัมผัส ทดลอง ดูหนัง ฟังเพลง ใช้งานกันให้หนำใจแล้ว หลายคนอีกนั่นแหละ คงเปลี่ยนใจบอกว่า ถูกมากๆ เพราะ harman/kardon ENCHANT 1300 ซาวนด์บาร์โฮมเธียเตอร์คุณภาพเหลือเชื่อครับ จะบอกให้ต้องบอกว่า เลิศมากๆ
ผมทดลองในห้อง ทดสอบขนาด 4×7 เมตร นั่งฟังแล้วยังนึกว่า กำลังฟังเสียงจากชุดติดตั้งระบบโฮมเธียเตอร์แยกชิ้นขนาดใหญ่ด้วยซ้ำไป
รับรองเสียงอลังการดีจริงๆ ครับผม มันทำให้คุณลืมระบบ Sound bar ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ขอบอก!
On Test
หลักการที่สำคัญตอนแรกก็คือนอกจากจะวางซาวด์บาร์ให้ได้ตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว Sub Woofer ก็ไม่ควรที่จะวางห่างไกลตัวซาวนด์บาร์มากนัก ถ้าสามารถจัดวางไว้ได้ในแนวระนาบเดียวกัน หรือใกล้กัน จะยิ่งได้ความเป็นหน่วยเดียวอย่างเหมาะสม ยิ่งขึ้นไปอีก ในการใช้งาน ผมทดลองวางห่างกันออกมาถึงสามเมตรครึ่งดูด้วย และเมื่อเซ็ตอัพเสียงอัตโนมัติอย่างถูกต้องแล้วก็ยังมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างดีมากเช่นกัน
ในการใช้งานจริง มีเทคโนโลยีที่ใช้ในการเซ็ตเสียงด้วยระบบ AMC ของเขาเองหรือ Automatic Multi Beam Calibration ทำงานได้ผลมาก โดยระบบโปรเซสซิ่งสัญญาณจะเริ่มทำงานเมื่อคุณกดปุ่มCalibration ค้างไว้ราวสามสี่ วินาที มันจะเริ่มทำการปรับตั้งให้ลำโพงทั้งชุด ให้เสียงได้ลงตัวเหมาะสมกับอะคูสติคภายในห้องโดยใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที
โปรด “เงียบเสียง” และอดใจรอ ไม่ต้องสนใจเสียงสัญญาณที่ดังออกจากลำโพงวี๊ดๆ ตุ๊บๆ แต่อย่างใดนะครับ ประมวลผลครู่เดียว เผลอๆ ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็จบในคำรบเดียวเท่านั้นเอง
และผมก็ชอบเสียงที่ได้จากการปรับอัตโนมัติของ ENCHANT 1300 เสียด้วย ระหว่างการทดสอบ ไม่ได้มีการปรับแต่งหรือปรุงเสียงเบส หรืออื่นใดเพิ่มเติม ตลอดเวลาการชมภาพยนตร์บลูเรย์ และการชมจากทีวีเลย
จะมีก็แค่เพียงเลือกโหมดเสียง Sound Mode เท่านั้นเอง ระหว่าง movie, voice, standard, music ส่วน person (ปรับแต่งด้วยตนเอง) แทบไม่ได้ใช้เลยละครับ
เพราะการแยกแชนแนลค่อนข้างที่จะแจ่มชัด ของ ENCHANT 1300 ด้วยการวางตัวขับเสียงแยกอิสระของแต่ละช่องเสียง จะไม่เหมือนกับระบบซึ่งใช้ดีเอสพี แมททริกซ์หน่วงเสียงเข้ามาช่วย
เรียกว่า ENCHANT 1300 ดีกว่าหลายขุม!
ที่สำคัญทั้งพลังเสียง และน้ำหนักเสียงที่ได้จากความรู้สึกของแชนแนลหลัก หนักหน่วงพอเพียงกับห้องขนาด 15-20 ตารางเมตร ได้ดีเยี่ยม และการโอบล้อมนั้นดูจะเป็นธรรมชาติอย่างมากในโหมด(Movie) จึงชมภาพยนตร์ในโหมดนี้ตลอดการทดสอบ
ผมดูจากหนังบลูเรย์ 4K หรือ 2K แนวดราม่า และแอ็คชั่น (รวมทั้งคอนเสิร์ต) อาทิ Serena , 1917,
War Hourse, Star Wars The Rise of Skywalker ล่าสุด IPMAN 4 ยอมรับว่านานครั้งที่เราจะได้ฟังเสียงจาก harman/kardon ENCHANT 1300 ด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่ได้ความละมุนละไมได้อารมณ์ล้ำลึกสวยงามเช่นนี้
harman/kardon ENCHANT 1300 มีความเป็นดนตรีสูงเกินซาวนด์บาร์ที่ฟังมาในรอบหนึ่งปีนี้เลยทีเดียว!
เสียงการสู้รบ การปะทะกันของทหาร ใน 1917 ต้องบอกว่า ย้อนกลับมาชมหนัง 4K เรื่องนี้ได้อีกสองสามรอบ จากอรรถรสของชุดซาวนด์บาร์ harman/kardon ENCHANT 1300 โดยแท้ และปิดตำนาน Star Wars The Rise of Skywalker กับหมัดมวยหย่งชุน ยิปมันในหนังบลูเรย์ ต้องชื่นชมเลยละครับว่าENCHANT 1300 ให้ครบ เด็ดขาด และได้บรรยากาศการชมภาพยนตร์อย่างเต็มอิ่ม
เสียงดีขนาดนี้ คงทำให้คนต้องหยุดคิดว่า ไม่ต้องยุ่งยากไปจัดชุดรีซีพเวอร์ บวกลำโพง มาใช้ ENCHANT 1300 จะดีกว่าไหม เพราะไม่ต้องเปลืองพื้นที่ และมันให้เสียงระดับสุดๆ ของระบบซาวนด์บาร์โฮมเธียเตอร์ เลยทีเดียว
การแยกแชนแนล และการโอบล้อมต้องบอกว่าผมชอบมากๆ นะครับ เพราะว่ามันให้ความเป็นธรรมชาติสูงมาก ทุกอย่างน่าฟัง มีความสมจริง ไม่มีเสียงหลอนหู หรือเสียงที่ตกแต่งเกินความเป็นจริง อันเนื่องมาจากการแยกจุดตำแหน่งของตัวขับเสียงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ครับ
จริงอยู่ที่เสียงจากแชนแนลหลักจะมีความสำคัญ เน้นน้ำหนักอิ่มเอมกว่าระบบเสียง และแชนแนลที่โอบล้อมเพราะในลักษณะกายภาพของซาวนด์บาร์โดยส่วนใหญ่ก็จะต้องเป็นเช่นนี้ แต่ ENCHANT 1300 ก็ยังให้เรารับอรรถรสของเสียงโอบล้อมที่น่าพึงพอใจ จากการวางตำแหน่งลำโพงเสียงรอบทิศไว้ที่ที่ปากฮอร์นทั้งสองข้างอย่างชาญฉลาด ให้ความ กว้างลึก มีเพดานเสียงที่ดี ข้อสำคัญ นี่คือระบบซาวนด์บาร์ และซับวูฟเฟอร์ให้เสียงอย่างสะอาดสะอ้านมาก
สรุปแล้วมันเป็นซาวนด์บาร์ บวกซับวูฟเฟอร์แนวเสียงผู้ดีมากทีเดียว ไม่มีเสียงสากเสี้ยนอะไรให้รกหู ไม่ว่าจะพีคแรงๆ หรือแผ่วเบาก็ยังรักษาโทนัลบาล้านซ์ดีจังเลย ส่วนพลังเสียงทั้งระบบจากการทดสอบของผมแค่เร่งโวลุ่ม 30-35 ก็เสียงอิ่มเต็มห้องแล้วละครับ
คุณภาพเสียงโดยรวม อิ่มสุภาพ สม่ำเสมอ
จากนั้นผมก็หัดร่วมสมัยกับเค้าบ้างละครับ ด้วยการทดลองฟังเพลงจากสตรีมมิ่งผ่านระบบไร้สายบูลทูธ ด้วยมือถือระบบ iOS ที่เราคิดว่าง่ายที่สุด อ่ะ! ผมแปลกใจเหมือนกัน คิดว่าฟังแค่เพลินๆ มันกลับให้เสียงดีราวกับฟังชุดเครื่องเสียงระดับมิดเอ็นด์นั่นเทียว
ถือว่าน่าพอใจครับ แต่ยังเป็นรองการฟังจากการสตรีมด้วยระบบ ไว-ฟาย ทางอินพุต Chromecast ของ ซาวนด์บาร์ชุดนี้คือ เสียงจะเต็มเปี่ยมรายละเอียดมากขึ้น แม้ว่าเราจะไม่ได้คาดหวังการฟังเพลงจากซาวนด์บาร์นักเท่าไร ทว่าในความเป็นจริงกลับให้คุณภาพที่ต้องบอกว่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวครับ
บ่งชี้ถึงความคุ้มค่าของ ENCHANT 1300 ด้วยความพรีเมี่ยมเกรดของมันนี้ คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ
ส่วนการใช้แฟล็ชไดร์ฟ ก็ขึ้นกับไฟล์เพลงที่บันทึกมาครับ ตัวซาวนด์บาร์รองรับไฟล์ โดยซาวนด์บาร์ชุด ENCHANT 1300 เล่นไฟล์เพลงได้หลายขนานเท่าที่ใช้งานกัน ตั้งแต่ไฟล์ระดับ 44.1 จนถึง 192KHz ทั้งไฟล์ WAV, FLAC, AAC, MP3 (FAT16/32 )
ผมว่าคุณภาพเสียงต่างๆ ที่ได้ถือว่าดีมาก “แม้ไม่คาดหวัง แต่คุณได้มากกว่าที่คาดหวัง”
ครับ มันเป็นช่วงเวลาเพลินเพลงที่เราโปรดปราน ประหนึ่งฟังเพลงจากซีดีแผ่นโปรด แล้วก็สะดวกง่ายดาย และด้วยความหลากหลายของเครื่องก็จะทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นเสมือนหนึ่ง HUB ที่เป็นศูนย์กลางระบบเสียงภายในบ้านได้เป็นอย่างดี หาใช่เป็นเพียงซาวนด์บาร์ เท่านั้น
ช่วงท้ายมาทดลองจากการต่อเชื่อมกับรายการทีวี โดยผ่านช่อง HDMI ARC คุณภาพเสียงโดยรวม จากรายการทีวีเสียงนุ่มนวลอบอุ่นมากขึ้น แม้จะเลือกเสียงโหมดใดก็ตาม ปกติดูทุกรายการผมเลือกโหมดStandard แต่ถ้าเป็นช่วงดูข่าวผมจะเลือก Voice เพื่อความชัดเจนของเสียงไดอะล็อกมากยิ่งขึ้น เพราะเสียงจะเคลียร์สะอาด
แต่จุดที่น่าสังเกตก็คือ เสียงจากช่องทีวีดิจิตอลของไทยรัฐทีวี ช่อง 3HD และอัมรินทร์ทีวี ดูจะชัดเจนสะอาด รายละเอียดน่าประทับใจกว่าช่องอื่นๆ (จากโหมด Standard) มีปริมาณเสียงต่ำพอเหมาะ เสียงกลางสะอาด ทำให้รายการทีวี โดยเฉพาะสารคดี หรือละคร น่าชมน่าฟังมากยิ่งขึ้นครับ
ในส่วนตัวผมถ้าใช้โหมด Standard กับการชมรายการทีวี ผมมักจะปรับเสียงต่ำ Bass จากรีโมท ลดลงไปเล็กน้อย เพราะด้วยรสนิยมส่วนตัวที่ชอบเสียงจากทีวี Clear สะอาดฟังสบาย
ทั้งหมดคือความสุดยอดของระบบซาวนด์บาร์ในปัจจุบัน ที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก
หากแม้นเราตระหนักว่า ทุกการลงทุน ทุกครั้งต้องคุ้มค่า แทนที่เราจะเลือกแค่ซาวนด์บาร์ราคาประหยัด แต่หากลงทุนให้สูงขึ้นมาอีกสักนิดสามารถบ่งบอกได้เลยว่าผลตอบแทนด้านคุณภาพ ที่คุณจะได้คืออะไร มันคือความสุดยอดคุณภาพเสียงที่น่าตื่นตะลึง
ENCHANT 1300 คือเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ซาวนด์บาร์ ระดับพรีเมี่ยมเกรด ที่ให้คุณภาพในระดับศูนย์กลางความบันเทิงในบ้านอย่างแท้จริงครับ ถือเป็นหนึ่งใน The Best ในรอบปี ครับ
harman/kardon ENCHANT 1300 พร้อมซับวูฟเฟอร์ ราคา 43,900 บาท
สนใจรายขอละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ MI. Engineering โทร. 0-2254-3316-9
หรือ http://www.mi-engineering.com