KEF R3
อีกระดับหนึ่งของลำโพงไฮเอ็นด์ ไดนามิคเร้นจ์กว้างดุจลำโพงตั้งพื้น
สำหรับลำโพงอังกฤษด้วยกันแล้ว ต้องยอมรับว่า KEF มีประวัติความเป็นมา และการพัฒนาอย่างยาวนาน ในฐานะผู้บุกเบิกสู่ความสุดยอดในศาสตร์ของเสียง นับตั้งแต่ปี 1961 เป็นต้นมา บนแผ่นดินสหราชอาณาจักร KEF ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ลำโพง ซึ่งล้วนโดดเด่นจนได้รางวัลมากมาย ไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง Uni-Q ไปจนถึงลำโพงไร้สาย LS50 ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับลำโพงทั้งหมด
R Series จะเป็นอีกลำดับขั้นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ KEF ในการเติมเต็มห้องฟังเพลงด้วยเสียงดนตรีที่บริสุทธิ์เที่ยงตรงเช่นต้นฉบับ เพื่อกล่อมเกลาจิตวิญญาณด้วยเวทีเสียงที่ละเมียดละไมอย่างแท้จริง
ขออนุญาตถ่ายทอดความเบื้องต้น การกำเนิด และหลักปรัชญาของ KEF ดังต่อไปนี้
นวัตกรรมแบรนด์ KEF นั้นมีที่มาจาก Kent Engineering and Foundry ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องเสียง ผู้ก่อตั้งคือ Raymond Cooke เขาได้แรงบันดาลใจจากความรักในดนตรี และความไม่ประนีประนอมกับคุณภาพเสียง
คุณเรย์มอนด์ไม่เคยย่อท้อที่จะคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อก้าวข้ามอุปสรรค และทำให้ชื่อของ KEF ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของแวดวงเครื่องเสียง
การคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ตลอดช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เป็นคำมั่นสัญญาว่าผลงานที่ประจักษ์ย่อมสำคัญกว่าคำเอ่ยอ้าง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรและเอกสารทางวิชาการ ย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดเวลาหลายทศวรรษ
นับแต่ยุคแรกๆ ที่ใช้วัสดุสังเคราะห์จวบจนถึงผลิตภัณฑ์ระดับ Reference Series
ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับเครื่องเสียงในปัจจุบัน ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของทีมงาน KEF ในการแสวงหาความเป็นที่สุด เป็นเหมือนหลักจริยธรรมประจำใจ และนั่นเองเป็นสิ่งจูงใจให้วิศวกรอะคูสติก ชั้นนำเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ KEF เพื่อรังสรรค์ผลงานที่ดี และดีที่สุดเท่าที่เขาปรารถนา
หากเราย้อนดูรากฐานแนวปรัชญานับแค่ผู้ก่อตั้งคนแรกถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยแปรเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม หลักการฟัง และให้ความความเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ยินเทียบเคียงธรรมชาติ จะยังคงเหมือนเดิม และพยายามพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
ความน่าสนใจคือ พันธกิจที่ KEF ตั้งมั่นเอาไว้นั้น น่าสนใจอย่างมากทีเดียว หากมีคำถามว่า KEF มีจุดมุ่งหมายอย่างไร นี่คือคำตอบ
ภารกิจของ KEF คือการส่งมอบเสียงที่มีข้อบกพร่องน้อยที่สุดไปยังผู้ฟัง จากเสียงแหลมตลอดไปถึงเสียงเบส และครอบคลุมทุกช่วงความถี่ ผู้ฟังย่อมสามารถหลับตา และผ่อนคลายความรู้สึก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของดนตรี สัมผัสกับผลงานผู้รังสรรค์เสียงเพลงอย่างเต็มอารมณ์ KEF เชื่อมั่นว่าเสียงที่ดีที่สุดคือ เสียงที่เป็นธรรมชาติ
และทุกคนควรมีสิทธิ์ได้สัมผัสความดีงามนั้น
ลำโพง KEF R Series รุ่นใหม่ ถูกออกแบบใหม่หมดจดในทุกมิติ อาศัยประสบการณ์นานหลายทศวรรษ บวกกับความคลั่งไคล้ในเสียงดนตรี รวมกันเป็นผลิตภัณฑ์ R Series รุ่นใหม่ การผสมผสานนวัตกรรมใหม่จากลำโพงรุ่น Reference Series เข้ากับเทคโนโลยีอันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะ
ทำให้ลำโพง R Series รุ่นใหม่ ให้เสียงที่มีรายละเอียดมากกว่า เข้าถึงความเป็นดนตรี และให้ความตื่นตะลึงน่าประทับใจจากทุกตัวโน้ต
ลำโพงวางบนขาตั้งเพียงรุ่นเดียวในซีรีส์ เป็นลำโพงสามทาง Three-way รุ่น R3 ใช้ไดรเวอร์ชุดเดียวกับที่ใช้ในลำพงรุ่นท็อป R11 ออกแบบเป็นฟลูเรนจ์ที่ให้เสียงที่เหนือชั้นเกินคาด
ต้องเรียนว่า มองจากภายนอกเหมือนมีอยู่แค่ 2 ตัวขับ แต่ R3 เป็นลำโพงแบบ 3 Way แท้ๆ ซึ่งใช้เบสไดรเวอร์ทรงพลัง ขนาด 165 mm (6.5 นิ้ว) และใช้มิดเรนจ์ไดรเวอร์ ขนาด 125 mm (5 นิ้ว) โดยมีทวีตเตอร์ ขนาด 25 mm (1 นิ้ว) เป็นอะลูมินั่มโดม Uni-Q อยู่ในใจกลางของมิดเร้นจ์ร่วมกันทำงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงล้ำอย่างถึงที่สุด
KEF R3 มีให้เลือกสามสี ได้แก่ Black Gloss, White Gloss และ Walnut เป็นงานผลิตตัวตู้ที่สวยสดงดงามมากๆ แค่จับต้องสัมผัส เราจะได้เห็นถึงความประณีตถึงที่สุดของผู้ผลิต สำหรับรุ่นที่นำมาทดสอบคือ Black Gloss ด้านหน้าตู้วางเรียงตัวขับเสียงในแนวดิ่ง เรียบร้อยงามตา ด้านหลังมีเอกลักษณ์พิเศษ เราจะเห็นขั้วต่อสองชุดแบบไบ-ไวร์ริ่ง และมีปุ่มคล้ายโวลุ่มให้หมุนได้ แทรกระหว่างกลางของขั้วลำโพงทั้งคู่ นั่นคือปุ่ม ปรับใช้ หรือไม่ใช้ตัวเชื่อมระหว่างขั้วตัวขับลำโพงกลางแหลม และทุ้ม
จึงไม่ต้องพึ่งพาสะพานเชื่อมแบบเก่าๆ ที่อยู่ด้านนอก อันนี้ถือว่า ออกแบบได้แยบยลมากครับ แค่หมุนปุ่มดังกล่าวตามเข็มนาฬิกาจนแน่น ก็เท่ากับเป็นระบบซิงเกิ้ลไวร์ หรือหมุนทวนเข็มนาฬิกาจนคลายออกมาก็จะเป็นระบบไบ-ไวร์ ให้คุณได้ต่อสายลำโพงแยกออกเป็นสองชุดได้สะดวก
ค่าการตอบสนองความถี่ที่ (-6dB) 38Hz – 50kHz และหากวัดตามมาตรฐานระดับมอนิเตอร์สปีกเกอร์ คือ (±3dB) ได้ที่ 52Hz – 28kHz และค่าความไวของลำโพงที่ 87dB ก็จัดว่าอยู่ในประสิทธิภาพกลาง กำลังขับที่ผมประเมินจากแอมป์ชั้นดี คือ 50-100 วัตต์ น่าจะควบคุมลำโพงนี้ได้เต็มที่
ผมใช้ขาตั้ง LOVAN SOVEREIGN A-6 ขนาดความสูง 24 นิ้ว เป็นหลักในการทดสอบฟัง แอมปลิไฟร์ใช้ Sugden IA4 และ NAD S300 ปรี-เพาเวอร์ ขุด QUAD 44 และ 606 Vintage เครื่องเล่นซีดี Marantz SA 15S1 เครื่องเล่นแผ่นเสียง Linn Sondek LP12 อาร์ม Linn AKITO หัวเข็ม Linn Adikt ช่วงเวลาทดสอบจริง ประมาณ สองสัปดาห์เต็ม
Test Report
ในปีนี้ผมทดสอบ KEF Q Series ไปแล้วสองรุ่นใน รวมถึง LS50 Meta ที่พัฒนาใหม่ รวมถึงการเคยได้ฟัง Reference Series มาบ้าง ทำให้เข้าใจบุคลิกเสียง แนววิถีทางการออกแบบอยู่พอสมควร ปัจจุบันยังเก็บ ลำโพง KEF BBC Monitor LS3/5A เอาไว้ในคอลเล็กชั่นด้วย
สำหรับ KEF R3 เป็นอีกระดับขั้นหนึ่งของลำโพงวางบนขาตั้ง ซึ่งต้องบอกว่างานโครงสร้างตู้ รวมทั้งการดามภายในให้เกิดความแข็งแกร่งนั้นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน อาจกล่าวได้ว่านี่คือการไต่บันไดไฮเอ็นด์แล้ว
ตัวตู้สีดำแบบแกรนด์เปียโนมันเงาวับ แถมน้ำหนัก ก็หนักเอาเรื่องเลยทีเดียว เป็นเครื่องยืนยันว่าตัวขับเสียงที่อยู่ภายในนั้น แม้จะเป็นระบบ Uni Q แต่ก็เป็นรุ่นที่ใช้อุปกรณ์เกรดเหนือกว่าขึ้นไปอีก สนนราคาลำโพงเฉียดคู่ละ 70,000 บาท แต่ก็ให้ความคุ้มค่าเหลือใจ
จากด้านหน้าจรดด้านหลังของตู้ Black Gloss สวยงามไร้ที่ติ มีท่อพอร์ตด้านหลัง สำหรับระบายเบส เพราะฉะนั้นการตั้งลำโพงหรือการเซ็ตอัพจึงแนะนำให้ห่างผนังด้านหลังประมาณ 80 เซ็นติเมตร หรือ 1 เมตรขึ้นไป
ต่อไปนี้คือ การทดลองจูนระยะห่างของพอร์ตหลัง กับผนังห้องด้านหลัง
โดยยึดเอาระยะห่างลำโพงตู้ซ้าย และขวา ห่างกันที่ 1.70 เมตร (วัดจากศูนย์กลาง ถึง ศูนย์กลางตู้) ความดังในการฟังเฉลี่ย ในห้อง 65- 85 dB (บวกลบตามแต่เสียงดนตรี มีพีคขึ้นลง)
ความห่างผนังหลัง เริ่มจาก 60 เซ็นติเมตร
60 cm เสียงเบสจะล้นเล็กน้อย
70 cm มิดเบสมีการโด่งขึ้นมา
80 cm โทนัลบาลานซ์ดี และเบสลอยเด่น
90 cm ย่านความถี่ต่ำลึกสวยงามขึ้น
100 cm เสียงร้องเปิด เบสพอดี
110-120 cm ทุกเสียงดีเยี่ยม ทุกย่านความถี่ลงตัว
โปรดทราบว่านี่คือผลจากห้องฟังของผมที่ 4×7 เมตร
ดังนั้น ในแต่ละห้องควรปรับจูนให้สัมพันธ์กัน ในระยะห่างผนังหลัง – ผนังข้าง ความสูงจากพื้น ระยะห่างระหว่างลำโพงตู้ซ้าย -ขวา และระดับความดังเฉลี่ยดังกล่าว
ทุกอย่างให้ยึดหลัก โทนัลบาลานซ์เป็นสำคัญ ครับ
ในแง่การเบิร์น เท่าที่ผมรับมาทดสอบมีเวลาเบิร์นอิน 100 ชม ก็นับว่าลงตัว แต่ดีที่สุดสำหรับตัวขับแบบโดมอะลูมินั่ม และวูฟเฟอร์กรวยสังเคราะห์ น่าจะต้องประมาณ 200 ชั่วโมง เพื่อความอยู่ตัว
อย่างไรก็ตาม R3 เป็นลำโพงที่มีแววดี ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเบิร์นอินแล้ว เพราะให้เสียงค่อนข้างราบรื่นไร้รอยสะดุดใดๆ
แค่ทดลองฟังเพียงช่วงสองสามอัลบั้มแรกเราก็รับรู้ได้ถึงความอิ่มหวานในน้ำเสียง และรายละเอียดละเมียดละไม น่าประทับใจ และแม่นยำเที่ยงตรงในแบบของลำโพง Reference ระดับอ้างอิงได้
โดยบุคลิกแล้วผมชอบปลายเสียงแหลมที่ค่อนข้างจะฉ่ำๆ รายละเอียดระยิบระยับ ของ R3 เป็นพิเศษ
คือถ้าคุณก้าวขึ้นมาจากรุ่น Q Series ก็จะพบว่ามันคือการยกระดับขั้นของรายละเอียดให้ “เหนือสูง” ขึ้นมาอีกครับ คุณภาพเสียงร้อง ดนตรีช่วงความถี่กลางที่ไร้สากเสี้ยน ราบรื่น
ควรกล่าวว่า มันมี “รายละเอียดในรายละเอียด” เลยทีเดียว
ปลายเสียงแหลม ที่ให้ความระยิบระยับ ตอบสนองได้ดีทั้งแผ่นซีดี และแผ่นเสียงอนาล็อก ผมเชื่อว่า นักฟังเพลงจะชื่นชอบ ความเปิดโปร่งที่สะอาด Clean เป็นอย่างยิ่งของ R3
ผมทดลองฟัง โดยสลับอัลบั้ม ทั้งแผ่นเสียง และแผ่นซีดี ด้วยแผ่นแม่บท Erich Kunzel & Cincinnati Pops Orchestra Ein Straussfest ลำโพง KEF R3 จับรายละเอียด ความอิ่มเสียง ความทรงพลังที่เกินกว่าลำโพง Bookshelf ทั่วไปจะให้ได้ ด้วยเสียงต่ำลึกที่น่าทึ่งจริงๆ
ความถี่ต่ำลึกนั้นเปรียบเทียบลำโพงตั้งพื้นได้เลยครับ
Sound Stage เวทีเสียงกว้างลึก การกระจายเสียงหลุดตู้ มันเป็นลำโพงที่ให้บรรยากาศดนตรีอย่างน่าทึ่ง อบอวลไปด้วยฮาร์โมนิกสวยงาม แจงรายละเอียดแม่นยำ
ให้ไดนามิคเร็นจ์ได้โอ่อ่าเลยทีเดียว
จากอัลบั้มโปรด Holly Cole Trio : Don’t Smoke in Bed ลำโพง KEF R3 เก็บรายละเอียดและบรรยากาศครบถ้วน โอ่อ่า แบบว่าผมไม่ได้ฟังอะไรที่สมบูรณ์สมจริงขนาดนี้มานานเลยทีเดียวครับ
R3 เมื่อเซ็ตลงตัวแล้ว จุดตำแหน่งดนตรีแม่นยำราวจับวาง ช่องไฟชิ้นดนตรี ได้เห็นภาพพจน์กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในแผ่นเสียง แผ่นซีดี ระดับออดิโอไฟล์ นั่งฟังแล้วแทบจะชี้จุดตำแหน่งดนตรีได้ครับ (Sheffield LAB2, LAB 5, LAB1)
บุคลิกเสียงนั้น มีทั้งความเที่ยงตรงแม่นยำ ควบคู่เสียงที่ละเมียดละมัย สำคัญมากที่สุด สำหรับ R3 ที่ทำให้มันมีความแตกต่างออกไปจากลำโพงอื่นคือ ลำโพงรุ่นนี้ มีความสมดุลของเสียงเป็นยอด ไม่มีอะไรเกินพอดี หรือขาดย่านความถี่ใดที่เราควรจะได้!
ฟังแผ่นทั้งแบบออดิโอไฟล์ และคอมเมอร์เชียลทั่วไป R3 จะคงไว้ซึ่งความเที่ยงตรงเสียงเป็นสำคัญ เปิดเผยรายละเอียดเป็นจริง ไม่มีการสมยอมหรือกลบเกลื่อน ดังนั้นลำโพงจึงดีพอที่จะแจกแจงความสามารถของห้องบันทึกเสียง เทคนิคซาวนด์อินจิเนียร์แต่ละสตูดิโอ
เรียกว่าในแง่ของความเป็นลำโพงมอนิเตอร์อยู่ในตัวเองก็ยังสามารถใช้เป็นหลักที่ยึดถือได้ในระดับเดียวกับสตูดิโอมอนิเตอร์
ในทำนองเดียวกันในเรื่องของคุณภาพเสียง บุคลิกเสียง ของ KEF R3 ที่มีความนุ่มนวล รายละเอียดครบถ้วน มีความสะอาดและความเปิดโปร่งครบถ้วน มีความเบี่ยงเบนผิดเพี้ยนต่ำ เป็นคุณสมบัติลำโพงไฮเอ็นด์ที่พึงมี
ในแง่สไตล์เพลง แทบพูดได้ว่า ฟังได้หลากหลาย จากคลาสสิก พ็อพ ร็อค ถึงวงสตริง ลูกทุ่ง สำหรับแผ่นเพลงร้อง พ็อพ เพลงแจ็ซ นี่ต้องพูดสั้นๆ ว่า “เลิศ” เลยทีเดียว เสียงคุ้มค่าตัวมาก
สรุปว่า ถ้ามองหาลำโพงวางขาตั้ง งบไม่เกินหนึ่งแสนบาท KEF R3 อาจจะเป็นตัวเลือกแรกที่ต้องฟัง หากพอใจ ยังสามารถนำงบที่เหลือไปเลือกขาตั้งลำโพงที่เหมาะสมอีกคู่ได้อย่างสบาย
KEF R3 เป็นลำโพงที่ใช้หลักการออกแบบ จากเทคโนโลยีสูงสุดในรุ่นเรือธง นำมาใช้ในR Series อย่างลงตัว ทำให้ได้คุณภาพเสียงระดับไฮเอ็นด์ ในงบประมาณที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
R3 อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงดนตรีอันละเอียดอ่อน ละเมียดละไม สนองตอบเพลงทุกประเภท จาก คันทรี พ๊อพ ไปจนถึงร็อค โดยไร้ขีดจำกัด ด้วยวิถีทางออดิโอไฟล์ เป็นผลงานของ KEF ที่ได้รับการยกย่องชื่นชมอย่างมากจากนักเล่นทั่วโลก
คำกล่าวที่ว่า ประสบการณ์ย่อมครอบคลุมทุกสิ่ง จึงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง ทีมงาน KEF ได้ผสมผสานความหลงใหลในความเที่ยงตรงของเสียง เข้ากับแนวคิดใหม่ๆ ทางวิศวกรรม ผลลัพธ์ที่ KEF ได้มา คือ R3 ผลิตภัณฑ์ที่บอกเล่าความดีงามด้วยตัวเอง
อยากเชื้อเชิญให้ท่านหาโอกาสนั่งฟัง หลับตา ปล่อยใจไปกับเสียงเพลง ฟัง แล้วคุณจะได้เห็นความจริง! นั่นคือคำเชิญชวนจาก KEF
KEF R3 ราคาคู่ละ 75,900.- บาท
สามารถทดลองฟังได้ที่ร้านจำหน่ายเครื่องเสียงชั้นนำทั่วไป
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โทร. 02 692-5216
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/vgadz/ และ https://www.vgadz.com/kef