เอปสันทุบสถิติ ครองเจ้าตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลก นาน 19 ปีติดต่อกัน
เอปสันครองตำแหน่งเจ้าตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกเป็นปีที่ 19 ติดต่อกัน จากการประกาศของ Futuresource Consulting ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการพัฒนานวัตกรรมและการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
จากการเปิดเผยข้อมูลวิจัยฉบับล่าสุดของ
Futuresource Consulting ระบุว่าเอปสันสามารถกวาดส่วนแบ่งตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากปี
2561 ที่ 37.4% ขึ้นมาที่ 41.4% ในปี 2562 ที่ผ่านมา โดยมี
ไฮไลท์อยู่ที่กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจคเตอร์ ที่บริษัทฯ
สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นจนเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 35% นอกจากนี้ ในระดับภูมิภาคและประเทศ
เอปสันยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้เช่นกัน
โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอปสันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 44.4% ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 37%
ในปี 2561 ส่วนในประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา
เอปสันได้ขยับหนีคู่แข่งแบรนด์อื่นในตลาดออกไปอีก ด้วยส่วนแบ่ง 46.4% เมื่อเทียบกับ 41.2% ในปี 2561
Futuresource Consulting ได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เอปสันประสบความสำเร็จในตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลก
ซึ่งได้แก่ ความต่อเนื่องในการพัฒนานวัตกรรม โดยในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอปสันได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เสมอ จนสามารถเข้าถึงตลาดทุกเซ็กเมนท์
ไม่ว่าจะเป็นรีเทล การศึกษา องค์กรธุรกิจ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์
ซึ่งรวมไปถึงโปรเจคเตอร์รุ่น EB-U50 และ EB-W50 ที่ใช้สำหรับป้ายโฆษณาดิจิทัล รุ่น EB-1485Fi เลเซอร์โปรเจคเตอร์ระยะฉายสั้นพิเศษในระบบอินเตอร์แอคทีฟ
หรือ รุ่น EB-1070U และ EB-1060U ที่มีฟังก์ชั่นครบครันเพื่อองค์กรธุรกิจ
และในกลุ่มโฮมโปรเจคเตอร์ รุ่น EF-100,
EH-TW7000 และ EB-LS500
ที่มีส่วนช่วยให้เอปสันประสบความสำเร็จในตลาดนี้
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย)
จำกัด กล่าวว่า “การที่โปรเจคเตอร์ของเอปสันสามารถทำยอดขายสูงสุดทั่วโลกติดต่อกันนานถึง
19 ปี อย่างที่ไม่มีแบรนด์ใดทำได้มาก่อนนั้น เป็นการยืนยันถึงความยอดเยี่ยมของเทคโนโลยี
3LCD ที่เอปสันเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาขึ้นเอง บริษัทฯ
จะยังคงพัฒนานวัตกรรมออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอคุณค่าใหม่ๆ
ให้กับลูกค้าของเรา โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้งานองค์กรและการนำโปรเจคเตอร์ไปใช้งานเพื่อธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงกลางแจ้ง ป้ายโฆษณาแบบดิจิทัล
การนำเสนอข้อมูลสินค้าบริการในร้านค้า รวมไปการจัดแสดงงานศิลปะต่างๆ
นอกจากนี้เอปสันยังมีการนำเทคโนโลยีแหล่งกำเนิดแสงแบบเลเซอร์มาใช้ในกลุ่มโปรเจคเตอร์ความสว่างตั้งแต่
5,000 lumens ขึ้นไป
เพื่อตอบโจทย์ด้านคุณภาพของภาพฉายและความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งาน
ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นพร้อมประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้ดีกว่า”
นอกจากนี้ เอปสันยังมีโครงสร้างธุรกิจที่ครบวงจร ในลักษณะบูรณาการในแนวตั้ง หรือ Vertically-integrated Business ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองไปจนถึงผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยที่ดูแลและควบคุมกระบวนการทั้งหมด เพื่อรักษาระดับคุณภาพในทุกรายละเอียดของการผลิตโปรเจคเตอร์ได้ด้วยตัวเอง
“เอปสันจะโฟกัสที่การขยายการเติบโตในตลาด B2B และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการใช้โปรเจคเตอร์ ไม่ว่าจะเพื่อการศึกษา ในองค์กรธุรกิจ ในธุรกิจให้เช่าเครื่อง หรือใช้เพื่อการจัดงานแสดงในพื้นที่ขนาดใหญ่” นายยรรยง กล่าว