ประทับไว้ในความทรงจำ Part 3

0
2768

ประทับไว้ในความทรงจำ Part 3

Nottingham Analogue Studio SPACE 294

ศิลปะชั้นสูงในเครื่องเล่นแผ่นเสียงระบบ Non-Suspension

            เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ถือว่าเป็นระบบเบสิกดั้งเดิม และสามารถออกแบบไปจนถึงสุดขอบไฮเอนด์ในระบบ Non-Suspension ที่ไม่จำเป็นต้องไปทำการแก้ไขระบบการสั่นสะเทือนไวเบรชั่น ด้วยการ “ยกแขวนลอย” หรือหลีกหนีปัญหาหนึ่ง ไปสู่อีกปัญหาหนึ่งแต่อย่างใด เทคนิครูปแบบใดก็ตามมันขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถไปออกแบบได้ดีที่สุดหรือไม่อย่างไร

            และ Nottingham Analogue เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่ยืนยันถึงระบบนี้ว่าสามารถทำให้เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงซูเปอร์ไฮเอนด์ได้อย่างไม่มีข้อแม้ และข้อสงสัยใดใดทั้งสิ้น

            Nottingham Analogue Studio ผู้ผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีประวัติยาวนาน จากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งโดย Tom Fletcher ในปี 1970 มุ่งมั่นผลิต “โต๊ะปั่นแผ่นเสียง” ที่มีระบบกลไกดีที่สุด โดยมีรุ่นของเครื่องเล่นแผ่นเสียง Non-Suspension ยืนยันความสุดยอดเรียงลำดับจากรุ่นเล็กไปหารุ่นใหญ่ ดังต่อไปนี้ (มีทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน)

1. HORIZON

2. INTERSPACE JUNIOR

3. SPACEDECK

4. ACE SPACEDECK

5. SPACE 294

6. HYPERSPACE

7. DAIS

8. ANNALOG

9. DECO

            สิ่งที่เราทราบคือ ทุกรุ่นดังกล่าวมานั้น ได้ใช้ชื่อเดิมมาตลอด แม้มีการอัพเกรดส่วนประกอบในจุดต่างๆ บ้างเล็กน้อยก็ตาม แต่ไม่เคยเปลี่ยนรุ่นแต่อย่างใด

ส่วนรุ่นของ Tone-Arm ท่อคาร์บอนตรง จะมี

1. Interspace Tone-Arm 10” (ใช้ในรุ่นเล็ก Interspace Jr, กับ Horizon)

2. Ace Space Tone-Arm มีความยาว 10” และ 12” (ใช้ในรุ่นกลาง Spacedeck – Hyperspace)

3. Ace Anna Tone-Arm มีความยาว 10” และ 12” (ใช้ในรุ่นใหญ่ Dais ขึ้นไป)

            ซึ่งในปัจจุบัน โทนอาร์มทุกรุ่นได้มีการอัพเกรดสายโทนอาร์มเป็นสายเงินทั้งหมดแล้ว รวมทั้งในรุ่น Interspace Tone-Arm ปรับปรุงรูปทรงภายนอกให้สวยงามขึ้น

            ผมสัมผัสเครื่องเล่นแผ่นเสียงของ Nottingham Analogue Studio ด้วยรุ่น SPACE 294 เป็นครั้งแรก ทำให้ตระหนักว่านี่คือการเข้าถึงเสียงอนาล็อก ที่มีศิลปะของพื้นฐานอันยอดเยี่ยมที่สุด โดยไม่ต้องสร้างความพิสดารซับซ้อนใดใดให้เกินเลยแม้แต่น้อย

            เบสิกจริงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยสักอย่าง ขนาดที่ปลายเฮดเชลล์ ยังไม่มีที่เกี่ยวปลายนิ้ว ต้องใช้ระบบลิฟท์ยกของอาร์มช่วย แล้วค่อยๆ ปลดให้หย่อนลงในร่องแผ่นอย่างช้าๆ แถมมอเตอร์แรงบิดต่ำยังต้องใช้มือช่วยกว้านอีกตะหาก! เพื่อให้การหมุนเข้ารอบ แล้วมันถึงจะทำงานในสปีด 33/-1/3 ตามที่เราต้องการ

เรียกว่าเป็นการหลีกพ้นจากการสั่นสะเทือนใดใดที่จะเกิดในทางกลได้อย่างหมดจดที่สุด

            ด้วยการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย และมีความเสถียร ทั้งมีเหตุและผลในทุกๆ จุด เช่นการคัดสรรวัสดุที่นำมาผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งรูปทรง และมวลของวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นตัวแท่นเครื่อง, ขารองเครื่อง, ชุดแบริ่ง, แพลตเตอร์, กราไฟต์แมต, โทนอาร์มฯ ทุกส่วนล้วนมีการทดสอบอย่างละเอียด และปรับปรุงแก้ไขจนได้จุดที่ลงตัวที่สุด

           จุดเด่นของ Nottingham Analogue Studio คือระบบ belt drive ที่เลือกใช้มอเตอร์ AC Motor ที่แรงบิดต่ำมากๆ (Ultra Low Torque) ชนิดที่ว่า Start ให้แพลตเตอร์ หมุนเองไม่ได้ เราคนเล่นจะต้องใช้มือช่วยปั่นให้หมุนจึงจะทำงานได้

           แต่นี่คือก็เป็นข้อดีของมอเตอร์ชนิดนี้

           เนื่องจากในระบบของเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้น  ชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมากที่สุดคือมอเตอร์ การเลือกใช้มอเตอร์ ชนิดแรงบิดต่ำ ทำงานร่วมกับสายพานกลมชนิดพิเศษ ก็จะช่วยลดการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนไปสู่แพลตเตอร์ได้เป็นอย่างดี 

           อีกทั้งการแยกมอเตอร์ออกจากแท่นหลัก ก็เพื่อหลีกเลียงการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนไปสู่แท่นหลักเช่นกัน (ในรุ่น SPACEDECK ขึ้นไป) เพราะเหตุนี้จึงทำให้เสียงของ Nottingham มีความสมูท ลื่นไหลต่อเนื่อง น่าฟังตลอดย่านความถี่

           แพลตเตอร์ และแบริ่ง ในเทิร์นเทเบิลของ Nottingham Analogue Studio ทุกรุ่น ได้ออกแบบให้มวลของแพลตเตอร์ และการรับน้ำหนักของแบริ่งมีความสัมพันธ์กัน ในแต่ละรุ่นจึงใช้แบริ่งจะไม่เหมือนกัน ทั้งขนาด และมีการอัพเกรดวัสดุแบริ่งในรุ่นใหญ่ แพลตเตอร์ทำจากโลหะผสม (Aluminum Alloy) ออกแบบรูปทรงให้มีการบาลานซ์น้ำหนักเป็นอย่างดี พร้อมทั้งเซาะร่องด้านข้าง และ Damping ด้วย Rubber Ring ให้มีการดูดซับและกระจาย Resonance ที่เหมาะสม 

           เพื่อให้เกิดความสมดุล และลดการเหวี่ยง การสะบัด ในขณะที่หมุน  (Wow and Flutter) เพื่อให้การเล่นกลับที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 

           Graphite ‘Mat’ ขนาด 25mm. (มีให้มาในรุ่น HYPERSPACE, DAIS, ANNALOG และ DECO ส่วนในรุ่น SPACEDECK, ACE SPACEDECK และ SPACE 294 เป็นออฟชั่นให้ลูกค้าเลือกซื้อเพิ่ม) กราไฟต์แมต ช่วยลดไฟฟ้าสถิต และช่วย Improve คุณภาพเสียงขึ้นไปอีกระดับ

            สำหรับ Tone-Arm อุปกรณ์ที่มีส่วนสำคัญที่สุดในระบบของเทิร์นเทเบิล เพราะโทนอาร์ม เป็นผู้ควบคุมการอ่านของหัวเข็ม และส่งต่อสัญญาณไปสู่ระบบขยายเสียงต่อไป 

           Nottingham Analogue Studio ออกแบบโทนอาร์มเป็นแบบ Uni-pivot เป็นอาร์มมวลเบา (Low Mass) ท่อแขนอาร์มผลิตจากวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์แบบชั้นเดียว (Single long grain carbon fibre tube)

            โทนอาร์มในรุ่น INTERSPACE ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบสองชั้น (Double long grain carbon fibre tube)  ส่วนในรุ่น ACE SPACE และ ACE ANNA จะมีความยาวสองขนาดให้เลือกทั้ง 10 นิ้ว และ 12 นิ้ว

            ซึ่งเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ทาง Sound Box นำเข้ามาตั้งแต่รุ่น SPACEDECK ขึ้นไป ได้สั่งโทนอาร์มขนาด 12 นิ้ว มาด้วยเลย เพื่อให้เทิร์นเทเบิลของ Nottingham Analogue Studio นั้นลงตัวกับดีไซน์ของแท่น ช่วยให้ถ่ายทอดประสิทธิภาพได้สูงสุด

           Space 294 รุ่นที่ผมทดสอบมาแล้ว และยกให้เป็นสินค้าชิ้นหนึ่งในรอบปีที่ประทับอยู่ในความทรงจำอย่างชนิดไม่รู้ลืม เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ใช้ตัวแท่นแบบ Non-Suspension จะมีความโดดเด่นในเรื่องของ Impact น้ำหนักเสียง แรงปะทะ มีความฉับพลันดีเด่นมาก 

โดยพื้นฐานตัวแท่น ในซีรีส์กลางทั้ง 4 รุ่น (SPACEDECK, ACE SPACEDECK, SPACE 294 & HYPERSPACE) ใช้หลักการเดียวกัน  แต่แตกต่างกันที่แพลตเตอร์ และชุดแบริ่ง 

           1) SPACEDECK & ACE SPACEDECK แพลตเตอร์ หนา 37 mm. กว้าง 12”

           2) SPACE 294 แพลตเตอร์หนา 37 mm. ขนาดกว้าง 14” กว้างกว่าทุกรุ่น เพื่อให้กระจาย Resonances ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียงที่ได้จะเปิดกว้างกว่า แพลตเตอร์ 12”โดยทั่วไปลักษณะมันจึงดูเสมือนว่าตัวแท่นรองนั้นเป็นอิสระอย่างสิ้นเชิงต่อแพลตเตอร์ และระบบมอเตอร์ขับหมุน แต่ทว่าแท่นก็จะเป็นพื้นฐานในการทำงานร่วมกันได้อย่างดีที่สุด

            3) HYPERSPACE แพลตเตอร์หนา 58 mm. + 25 mm. Graphite ‘mat’ ที่ให้มาด้วยเลย (รุ่นอื่นเป็นออฟชั่น) ความกว้าง แพลตเตอร์ 12” ด้วยขนาดแพลตเตอร์ของ SPACE 294 ที่กว้างกว่ารุ่นอื่นๆ ตัวแท่นเครื่องจึงต้องขยายขนาดความกว้างไปด้วย เพื่อความสวยงามและความนิ่งของตัวแท่น 

            ตัวแท่นเป็นโครงสร้าง 2 ชั้น ฐานล่างสุดขอเรียกว่า Base ทำจากวัสดุ MDF ทำสี High gloss black finish ใต้ฐานมีปุ่มยาง ซึ่งช่วยสลาย Resonances ได้ระดับที่ดีมาก ส่วนตัวแท่นหลัก Plinth ทำจากวัสดุ  MDF ทำสี High gloss black finish ขาทั้ง 3 ทำจาก Aluminum Alloy ปรับระดับน้ำได้ ใต้ขามีปุ่มยางเช่นกัน

           หัวเข็ม เป็นของ London Super Gold ที่กำหนดให้ตั้งค่าน้ำหนักหัวเข็มที่ 1.5 – 2 กรัม นี่เป็นหัวเข็มพิสดาร ที่ไม่มี cantilever แท่งก้านเข็ม มีแต่ตัวปลายเข็ม หรือ Stylus ออกมาจากบอดี้ของมัน ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบเฉพาะตัวของ London มันจะแทร็กร่องหัวเข็มโดยตรง ไม่ต้องอาศัยการประคองจากก้านเข็มเหมือนแบรนด์อื่น

           ส่วนปลายเข็มที่เล็กนี้ยึดโยงกับแท่งเหล็กที่อยู่ระหว่างคอยล์และแม่เหล็ก มันจึงไม่ใช่ทั้งหัวเข็มแบบ Moving Magnet และ Moving Coil  แต่นี่คือหัวเข็ม Moving Iron

           Moving Iron ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในสารบบหัวเข็มแผ่นเสียง เป็นการออกแบบเพื่อลดการสูญเสียในเรื่องการสั่นสะเทือนต่างๆ จากกฎเกณฑ์พื้นฐานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ฟังสัมผัสทุกอณูรายละเอียดมากยิ่งกว่า สำหรับรุ่น Super Gold นี้เข็ม หรือ Stylus ใช้วัสดุเพชรขัดเงา ให้เอาต์พุต : 5mV ตอบสนองความถี่ได้ถึง 40,000 Hz

           นี่คือองค์ประกอบของ เครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ลงตัวที่สุดเซ็ตหนึ่งพี่จะพาเราย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของคำว่าอนาล็อกโดยแท้จริง

ผลทดสอบสามารถหาอ่านได้จากลิงก์นี้ ครับ https://www.thewave-online.com/test-report/nottingham-analogue-studio-space-294/

บทสรุปด้านคุณภาพเสียง

            นี่เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ย้อนกลับคืนไปสู่ความเป็นเบสิกทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ และยังคงให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ระบบการทำงานจะค่อนข้างย้อนคืนไปสอดคล้องกับการเซาะร่องแผ่นเสียง จึงเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ

            อาร์ม และหัวเข็มดูจะทำงานเข้าขากันมากที่สุด ความเงียบระหว่างช่องเสียงดนตรี ถือว่าเข้าขั้นสงัดมาก ทั้งน้ำเสียงที่นุ่มอุ่น และรายละเอียดระยิบระยับครบถ้วน เป็นการเข้าถึงเสียงอนาล็อก ชนิดที่รายละเอียดแบบดิจิตอลทำอะไรไม่ได้เลย มีปลายเสียงแหลมสวยงามจริงๆ

          SPACE 294 รายละเอียดในแบบอนาล็อก ที่สุดยอดแท้จริงครับ และเป็นรุ่นกลางๆ ที่ชี้วัดให้เห็นว่าระบบ Non-Suspension นั้น มีความยอดเยี่ยมเพียงไร และทำไมผมจึงโน้ตไว้ว่า “เป็นศิลปะชั้นสูงในเครื่องเล่นแผ่นเสียง” ให้ความรู้สึกประทับใจอย่างไม่มีวันลืมเลือน

SPACE 294 ราคารวมอาร์มแล้ว ราคา 168,000.- บาท ไม่รวมหัวเข็ม

(Ace space Tone-arm 12” ราคาขายแยก 63,000.- บาท)

สนใจติดต่อ Sound Box อาคารศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 3 โทร.02 642 1448

คุณโจ้ : 089-920-8297

คุณธงชัย : 092-890-4660 , Line ID : tsoundbox

Facebook เพจ : https://www.facebook.com/soundboxthailand/?ref=bookmarks