The Light of Audiophile ตอนที่ 5
หลักพิจารณาการเล่นเครื่องเสียงสเตอริโอแบบเสริมความถี่ต่ำ
ก็คงยังเป็นข้อถกเถียงอยู่หลายหลากมุมมองในประสบการณ์ของนักเล่นเครื่องเสียงระดับออดิโอไฟล์ว่า ระบบสเตอริโอโฟนิค ที่ดีไซน์ระบบให้มีลำโพงสองคู่ซ้ายขวานั้นพอเพียงสำหรับการฟังหรือไม่
และที่มีการเสริมลำโพงตู้ Sub-Woofer มันจำเป็นจริงหรือเปล่า
– ทำให้ดีขึ้น? หรือทำให้แย่ลง?
บทความจากประสบการณ์ล้วนๆ ของผมชิ้นนี้ ไม่มีเจตนาแบบ “เห็นด้วยอย่างมาก” หรือ “ไม่เห็นด้วยอย่างมาก” ทั้งสองแนวความคิดนะครับ
หากท่านได้ติดตามงานเขียนบทความเครื่องเสียงของผมมายาวนานพอสมควรแล้ว ก็จะทราบว่า ผมยึดทางสายกลางเหมือนในแนวคิดทางพุทธศาสนาคือ มัชฌิมาปฏิปทา
เมื่อเรามาแยกแยะ รายละเอียดเหตุผลกัน จะเห็นได้ทั้งจุดเริ่มต้น และจุดหมายปลายทางได้ว่า จะเดินทางสายใด
ในความคิดส่วนตัวของผมก็คือ ระบบเครื่องเสียงที่ดี ควรสนองตอบความถี่จากเสียงดนตรีให้ครบถ้วน “เท่าที่จะเป็นไปได้” คือความหมายของ High Fidelity
![](https://www.thewave-online.com/wp-content/uploads/2024/05/Banner-The-Light-of-Audiophile-ตอนที่-5-1.jpg)
ในความเป็นจริง ถ้ายึดเอามาตรฐานการแสดงสด จากวงออเคสตร้า ที่มีความถี่เสียง น้ำหนักเสียง ความเข้มของเสียง ไดนามิคเร้นจ์ การตอบสนองความถี่ เวทีเสียง อิมเมจจุดตำแหน่งเสียงของชิ้นดนตรีเหล่านี้
จากขั้นตอน Recording ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบส่วนแรก คือ Sound Engineer ในห้องบันทึกเสียงที่เขาต้องพยายามทำให้ขั้นตอนของการบันทึกเสียงนั้น ต้องเก็บทุกรายละเอียดมาให้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด
ในขั้นตอน Playback เมื่อเรานำเพลงที่บันทึกมาจากสตูดิโอมาฟังกับเครื่องเสียงภายในบ้าน จะต้องคิดคำนึงก่อนว่า Scale เสกลเสียงที่ถูกย่อส่วนลงมานั้น มี “อัตราสัดส่วนสมจริง”
การตอบสนองความถี่ แหลม กลาง ทุ้ม จะต้องย่อลงมาแบบมีอัตราส่วนที่ “สอดคล้องความเป็นจริง”
เพราะไม่มีเครื่องเสียงชุดไหนที่สามารถให้ย่านความถี่ รายละเอียดเสียง เวทีเสียง ความเป็นชิ้นดนตรีต่างๆ เหมือนการแสดงสด เหมือนดนตรีคอนเสิร์ตได้ด้วยลำโพงเพียงคู่เดียว!
คิดง่ายๆ ถ้าเวทีแสดงดนตรีกว้าง 15 เมตร ลึก 7 เมตร ถามว่า มีชุดลำโพงชุดใดในระบบโฮมยูส เสนอเวทีเสียงได้กว้างถึง 15 เมตรลึก 7 เมตร บ้าง?
ดังนั้น เราจึงต้องคิดถึงสเกล สัดส่วนดนตรีที่ย่อลงมาฟังในห้อง ที่ลำโพงของเรา วางห่างกันประมาณ 2-3 เมตร โดยทั่วไป มันน่าจะอยู่ที่ประมาณไหน
ซึ่งอาจจะแค่ 1/3 หรือ 1/5 ของการย่อส่วนลงมาในห้องฟัง ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
ถ้าเข้าใจตรง Scale สัดส่วนดนตรีตรงนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจว่า เครื่องเสียงที่เราฟังทุกวันนี้ก็คือการ ”ย่อส่วน“ ดนตรีจริงมาฟังในบ้านนั่นเอง
ถ้าเรายึดเรื่องสเกลของเสียงเป็นหลัก เราก็คงจะพอทราบว่าชิ้นดนตรีต่างๆ นั้น ควรจะมีปริมาณของเสียงขนาดไหน
ไม่ว่าจะเป็นแหลม กลาง ทุ้ม เช่นเสียงของไวโอลิน เสียงของเปียโน เสียงของดับเบิ้ลเบส เสียงของทิมปานี เมื่อถูกย่อส่วนมาในบ้านแล้ว สเกลและสัดส่วนมันมีบาลานซ์ หรือความพอดีอยู่ที่ตรงไหน
ถ้าเสียงชิ้นดนตรี ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ผิดสเกลสัดส่วนน้อยไปหรือมากไป ก็ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีทั้งสิ้น
อย่างเช่นลำโพงวางบนขาตั้งคู่หนึ่งให้เสียงกลางแหลมได้ดี แต่เสียงต่ำด้านลึกของชิ้นดนตรีนั้นขาดหายไปตรงนี้ ถ้าเราจะทำให้สมจริงตามสเกลสัดส่วนมากขึ้นก็คือเล่นลำโพงที่ใหญ่ขึ้น เป็นระบบตั้งพื้น หรือรุ่น Top ที่การออกแบบนั้น สามารถผลักดันสเกลของดนตรีให้ได้สมบูรณ์แบบ
หรืออีกวิธีการหนึ่งก็คือการเสริม Sub-Woofer ลงไปในระบบ
ในฐานะคนฟัง ถ้าทุกอย่างรู้สึกได้ว่าสเกลเสียงดนตรี มันพอดี สมส่วนอยู่แล้ว
คุณจะเปลี่ยนลำโพงใหญ่ขึ้นหรือคุณจะเสริม Sub-Woofer ลงไปเพื่อให้มีเสียงต่ำมากขึ้นเพื่อสิ่งใด?
เพราะมันจะทำให้สเกลสัดส่วนต่างๆ ของดนตรีก็ผิดไปหมด
ตามหลักการที่ถูกต้องอะไรที่มันพอดีอยู่แล้วก็ควรพอเพียงอยู่ตรงนั้น
แต่ถ้ารู้สึกว่ามันขาด ก็เพิ่มเข้าไป หรือถ้าเกิน ก็ลดมันลงมา นี่ก็เป็นหลักการธรรมชาติพื้นๆ โดยทั่วไปอยู่แล้วนะครับ
ผมจึงไม่ได้ปฏิเสธหลักการใดๆ ทั้งสิ้นในการเล่นเครื่องเสียง
และถ้าเราจะเสริมอะไร ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในระบบอย่างใด เราควรรู้การตอบสนองความถี่ของชิ้นดนตรีด้วย
สมมุติว่า ตอนนี้ความถี่ต่ำในซิสเต็ม ของเราน้อยไป ทำให้อาจจะขาดเสียงของเครื่องดนตรีบางอย่างได้ เรามาดูกันว่า ถ้าจะเสริม Active Sub-Woofer ชุดเครื่องเสียงเราจะครอบคลุมชิ้นดนตรีใดบ้าง?
จากประสบการณ์ ในการทำระบบ Professional และ Home Use ความถี่ต่ำที่มีจุดตัดตั้งแต่ 250Hz ลงไปจนถึง 20Hz หรือต่ำกว่า ผมถือว่าเป็นย่านความถี่ครอบคลุมการทำงานของSub-Woofer
![](https://www.thewave-online.com/wp-content/uploads/2024/05/Banner-The-Light-of-Audiophile-ตอนที่-5-2.jpg)
ยกตัวอย่างชิ้นดนตรีที่เกี่ยวข้อง กับความถี่ต่ำที่สำคัญช่วงนี้คือ
– ออร์แกนท่อ / คีย์บอร์ด / ซินธีไซเซอร์ สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 20Hz
– เปียโน สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 25Hz
– ทูบา / ฮาร์พ สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 30Hz
– ดับเบิ้ลเบส สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 30Hz
– ฮาร์ปซิคอร์ด สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 40Hz
– เบสกีต้าร์ สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 40Hz
– อคูสติค อิเลคทริกกีต้าร์ สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 80Hz
– เฟรนซ์ฮอร์น / ทรอมโบน / บาสซูน สนองความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 60Hz
– เทนเนอร์แซ็กซ์ สนองความถี่ช่วงต่ำลึกถึง 120Hz
แม้แต่เสียงร้องของศิลปินนักร้องชายก็สนองตอบความถี่ช่วงต่ำลึกได้ถึง 100Hz
ดังนั้น เราก็คงต้องมาวิเคราะห์ สิ่งที่เราได้ยินจากระบบลำโพง-เครื่องเสียงของเราว่า มันสนองความถี่ต่ำได้พอเพียงจริงไหม ถ้ารู้สึกว่า พอแล้ว ลำโพงสตูดิโอคู่เดียวก็ถือว่าจบ
แต่ถ้าไม่… ตรงนี้ ก็ตัดสินใจว่า จะเพิ่ม Active Sub-Woofer หรือไม่ แล้วแต่ความรู้สึกของเราจะกำหนดลงไปครับ
ถ้าสมมุติว่า ต้องเพิ่มความถี่ต่ำด้วย Active Sub-Woofer ซึ่งมันจะมีหลักต้องพิเคราะห์ อีกพอสมควร ผทจะมานำเสนอกันต่อในตอนถัดไป ใน The Light of Audiophile ตอนที่ 6 ครับ