KEF LSX II LT
Wireless Streaming Speaker
เพื่อนใจนักฟังเพลงคุณภาพ
หลังจาก Preview ลำโพงรุ่น KEF LSX II รุ่นพี่ไปได้ไม่นานนัก ผลงานออกแบบคลาสสิกของ Michael Young ก็ติดตามมาอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ KEF LSX II LT ในคุณภาพที่ต้องเรียกว่า เหมือนกันแทบทุกประการ แต่ราคาย่อมเยากว่า ทำให้ลำโพงสตรีมมิ่งเบ็ดเสร็จคู่นี้ โด่งดังเป็นพลุในหมู่นักฟังเพลงทันที แถมได้รับรางวัลการันตีทั่วโลกแทบทุกสถาบันด้วยครับ
เป็นลำโพงแอคทีฟขนาดเล็กที่ Plug and Play ได้ทันที จะวางบนขาตั้งฟังแบบออดิโอไฟล์ หรือวางง่ายๆ บนโต๊ะทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ดูเรียบหรูสวยงามไปทั้งนั้น ยังคงใช้ตัวขับเสียงเหมือนรุ่นพี่คือ Uni-Q Driver เวอร์ชั่นที่ 11 พร้อมด้วยแอมปลิไฟร์ในตัวเอง มีกำลังขับสูงสุด 200 วัตต์
ดังนั้น ถ้าจะถามว่าการเล่นสตรีมมิ่งแบบครบถ้วนเบ็ดเสร็จ ในงบสี่หมื่นบาท ที่สะดวกง่ายดายและคุณภาพเสียงดีเยี่ยม จะเลือกอะไรดี นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ เพราะ KEF LSX II LT เป็นลำโพงออลอินวัน ที่เล่น Streaming ได้ทั้ง Wi-Fi หรือต่อสาย LAN ที่ให้คุณภาพเสียงระบบดิจิตอล 24-bit/384kHz PCM รองรับไฟล์ได้ครบถ้วน ตั้งแต่ DSD, FLAC, WAV, AIFF, ALAC, AAC, WMA, MP3, M4A, LPCM และ Ogg Vorbis รองรับบลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 ด้วยครับ
ช่องต่อรับสัญญาณดิจิตอลภายนอกมี Optical, HDMI eARC, USB-C ให้ใช้งานหลากหลาย
สำหรับขาฟังเพลงสตรีมมิ่ง ครบพร้อมในการรองรับการทำงานจากหลายค่ายเพลง ทั้ง Spotify Connect, Tidal Connect รวมถึง AirPlay 2 ของ Apple และ Google Chromecast การทำงายคล่องตัวด้วยแอพ KEF Connect
เรามาดูแนวทางการออกแบบ จะพบว่าโครงสร้างลำโพงนั้นผลิตจากวัสดุพรีเมี่ยม สวยงามและแข็งแรงทนทาน มีให้เลือก 3 สี คือ Graphite Grey, Stone White และ Sage Green ใครชอบสีไหนเลือกได้ตามใจปรารถนาให้เข้ากับไลฟสไตล์ และความกลมกลืนของพื้นที่ห้อง
ด้วยขนาดลำโพงเพียง 9.5 × 6.1 × 7.1 นิ้ว คล้ายกับลำโพงมอนิเตอร์ในสตูดิโอ เราสามารถจัดวางได้ง่ายกับทุกพื้นที่ เพราะสามารถคอนโทรลเสียงชดเชยได้จากแอพ แต่สำหรับผมชอบใช้งานไว้บนขาตั้งชั้นดี แล้วเซ็ตอัพฟังแบบออดิโอไฟล์ ให้ลำโพงห่างกัน 1.50 เมตร พอดีสำหรับห้องฟังจริงๆ
หลายคนต้องถามแน่นอนว่า ถ้าคุณภาพเสียงดีเท่ารุ่นพี่ KEF LSX II แล้วราคาย่อมเยาลงมาเพราะอะไร หลังจากพิเคราะห์จากการทดสอบแล้ว ผมขอแจงรายละเอียด เรื่องความแตกต่างของลำโพงทั้งสองรุ่นดังต่อไปนี้
• วัสดุตัวตู้ของ LSX II LT เปลี่ยนมาเป็นโครงตู้ฉีดขึ้นรูปธรรมดา ที่เลือกได้สามสี ส่วน LSX II นั้น หุ้มผ้า Kvadrat จากเดนมาร์ค และมีให้เลือกถึงหกสี
• สำหรับ LSX II LT จะไม่มีช่อง Aux input รับสัญญาณอนาล็อกแบบมินิแจ็ค 3.5 มม.
• LSX II LT ใช้สาย USB-C เชื่อมต่อระหว่างลำโพง ผมว่าก็สะดวกขึ้นครับ โดยเราเสียบปลั้กที่ลำโพง Primary แค่ตู้เดียว และลำโพง Secondary ก็จะใช้ไฟจาก USB-PD ไปเลี้ยง ไม่ต้องเสียบสายไฟทั้งสองตู้เหมือน LSX II
• แน่นอนว่าตู้ลำโพง LSX II รุ่นพี่ สามารถเชื่อมต่อระหว่างกันแบบไร้สายได้ แต่ LSX II LT ต้องลิ้งค์การทำงานระหว่างกันในแบบ Stereo ด้วยสาย USB-C เท่านั้น
• สุดท้าย LSX II LT นั้น จะไม่รองรับ Roon โดยตรง ต้องใช้งานผ่าน Airplay หรือ Chromecast และไม่รองรับไฟล์ MQA
อย่างไรก็ตามบวกลบคูณหารแล้ว ต้องยอมรับว่า LSX II LT คุ้มเกินคุ้มกับการใช้งาน ที่สะดวกสบาย รวมถึงคุณภาพเสียงแทบไม่ต่างอะไรกันกับรุ่นพี่เลยด้วยซ้ำ
PREVIEW
รูปแบบของลำโพง KEF LSX II LT นั้น เมื่อเราลงมือทดสอบก็จะมีความรู้สึกเสมือนย้อนกลับไปยังรุ่นแรกคือ KEF LSX II แทบไม่ผิดเพี้ยน ยกเว้นจุดที่แตกต่างดังกล่าว ที่ผมแจ้งไว้เบื้องต้นเท่านั้น และน้ำเสียงดูเหมือนว่าจะเปิดโปร่ง เร้าใจสุดยอดมาก แต่อาจต่างนิดเดียว ตรงไม่ได้ให้เสียงที่นุ่มลึกเท่า LSX II (ที่มีผ้าชั้นดีหุ้มตัวตู้)
มองจากดีไซน์ด้านหน้าตู้ลำโพง จะเห็นตัวขับเสียง Uni-Q แมกนีเซียม-อลูมิเนียมอัลลอยด์ ในขนาด 4.5 นิ้ว ที่มีทวีตเตอร์อลูมิเนียมโดม ฝังอยู่ตรงกลางขนาด 0.75 นิ้ว สำหรับด้านหลังของตู้หลักหรือ Primary จะมีท่อพอร์ทยิงเสียงออกด้านหลัง และมีปุ่มสำหรับ Reset และ Pairing ระบบบลูทูธ นอกจากนั้นมีช่องรับอินพุต แบบ Optical, USB-C และช่องต่อขาออก สำหรับซับวูฟเฟอร์
มีช่องต่อ HDMI (TV) สำหรับกรณีที่ต้องการชมและฟังภาพยนตร์ หรือรายการทีวี เพราะสามารถสื่อสารสองทางได้ ช่องต่อเชื่อมสายระหว่างลำโพงหลักไปยังลำโพงรอง สุดท้ายคือช่องNetwork และที่ต่อสายไฟเอซี ในส่วนลำโพงรองจะมีเฉพาะช่องเสียบต่อสายเชื่อม USB-C เท่านั้น องค์ประกอบตัวขับนั้นเหมือนกับ LSX II ทุกประการ
หลังจากต่อสายไฟ และเชื่อมต่อสายให้กับลำโพงทั้งคู่แล้ว เมื่อเสียบไฟให้กับตู้ลำโพงPrimary Speaker ต่อสาย LAN ผมก็เข้าแอพพลิเคชั่น KEF Connect ชั่วแว่บเดียว การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างอัตโนมัติ การเลือกปรับระดับความดังอินพุตหรือปรับค่าอื่นๆ ก็ไม่ได้ต่างไปจากรุ่นพี่คือ LSX II
ถ้าจะถามว่าลำโพงจะต้องมีการเบิร์น บ้างหรือไม่…ขอเรียนว่าความจำเป็นจะน้อย แต่หาก ต้องการฟังแบบออดิโอไฟล์ ก็สามารถเบิร์นไปเรื่อยๆ กับเพลง Streaming สัก 100 ชั่วโมง ถือว่าเรียบร้อย เพราะลำโพงแอคทีฟนี้สามารถสนองตอบรายละเอียดเสียงและคุณภาพได้ แทบจะในทันทีอยู่แล้ว
ผมดำเนินรอยตามการทดสอบเหมือนรุ่น LSX II โดยเซ็ตอัพลำโพง LSX II LT บนขาตั้งโลหะผสม วางลำโพงเป็นระบบสเตอริโอซ้ายขวาห่างกันที่ 1.50 เมตร วิธีการเซ็ตอัพก็ไม่ต่างไปจากลำโพงออดิโอไฟล์โดยทั่วไปครับ การฟังแบบนี้จะได้รายละเอียดอย่างเต็มที่กว่าการวางง่ายๆ ในชั้นวางหรือโต๊ะทำงานอยู่สักหน่อยครับ
ส่วนท่านใดที่จะวางไว้บนชั้นวาง บนโต๊ะทำงาน หรือจุดนั่งฟังเพลงอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละท่าน เพราะลำโพงใช้งานได้ง่าย ตัวแอพ KEF Connect ยังสามารถช่วยให้เราปรับแต่งเสียงให้เหมาะ ให้ความถี่สมดุลกับห้องฟัง และความชอบของผู้ฟังอีกต่างหาก
แอพพลิเคชั่น KEF Connect เชื่อมต่อเข้ากับระบบของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งได้ทุกรายโดยอัตโนมัติ และถ้าคุณมีบัญชีของผู้ให้บริการต่างๆ เหล่านั้น ก็จะใช้งานได้ในทันที
ผมฟัง TIDAL Spotify และ Jook เพื่อเข้าถึงคลังเพลงไทย ตามลำดับ นอกเหนือจากการใช้แอพแล้วลำโพงยังใช้ได้กับรีโมทคอนโทรลงได้อย่างสะดวกอีกด้วย
ให้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ผมว่าเสียงของ LSX II LT รุ่นนี้กับรุ่นพี่ LSX II ก็นับว่าใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง ให้เสียงได้กว้างลึก รายละเอียดสูง กระจายเสียงได้กว้าง บ่งชี้จุดตำแหน่งชิ้นดนตรีได้ดีมาก ก็อาจจะเพราะคุณสมบัติทางเทคนิค Music Integrity Engine แสดงผลของเสียงออกมาอย่างเที่ยงตรง มีความกระชับหนักแน่น โดย DAC ในตัว ให้การสนองตอบหรือถ่ายทอด เสียงคุณภาพสูงระดับ 96kHz/24bit เป็นปฐมอยู่แล้ว
และดังที่เรียนไว้ว่า การทำงานควบกับแอพ KEF Connect ตัวลำโพงจะมีฟังก์ชัน EQ DSP (Digital Signal Processing) ช่วยในการปรับแต่งเสียงได้อย่างง่าย โดยระบบ DSP จะมีหน้าที่ เลือกสรรบุคลิกเสียงให้เหมาะกับสถานที่วางภายในห้องของเราได้อย่างดีที่สุด และอยากกระซิบว่า นี่คือลำโพงแอคทีฟขนาดเล็กที่ให้เสียงเบสได้อย่างน่าทึ่ง กับการได้ฟังบางเพลงแล้ว เบสอิ่มหนักแน่น ถึงกับตกตะลึงได้เลยทีเดียว
แต่ถ้าหากท่านใดต้องการเบสที่หนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ก็สามารถต่อใช้งาน Subwoofer ภายนอกได้อีก (ซึ่งในที่นี้ขอแนะนำ KEF KC62 ) รับรองว่าชุดเครื่องเสียงขนาดยักษ์เป็นได้อายเลยละครับ
เป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินกับเสียงเพลงอย่างเต็มอิ่ม ผมไล่เรียงตั้งแต่ความหนักแน่น Alan Parson Project : IRobot ร็อคสนุกเร่าร้อน ได้เห็นถึงความทรงพลังของลำโพงอย่างเต็มที่มากครับ ไปจนถึงเพลงที่อ่อนโยนนุ่มนวลหวานละมุน และประทับใจตลอดกาลอย่าง Amanda Mcbroom หลายอัลบั้มโปรด อาทิ Dreaming, A Waiting Heart, Voices นี่คือช่วงเวลาที่เป็นความสุขอย่างยิ่งจริงๆ
ช่วงกลางวันผมมักขลุกอยู่ในห้องฟังเพลง ก็มักจะท่องไปในโลกของเพลงคลาสสิค ด้วย Round-Up และตามด้วย Ein Straussfest จาก Telarc ซึ่งเป็นอัลบั้มที่บันทึกตั้งแต่ต้นทาง จนถึงขั้นตอนสุดท้ายเป็นดิจิตอลล้วนๆ สามารถบ่งชี้ให้คุณได้เข้าถึงเสียงซึ่งเป็นดนตรี วงออเคสตร้ามหึมากับลำโพง KEF LSX II LT คู่เล็กคู่นี้ได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว นี่ละ ที่เรียกว่า เล็กพริกขี้หนู ละครับ
มาถึงช่วงเย็นย่ำสนธยา อันเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ผมก็เพลินเพลงไทยคลาสสิคเก่าเพราะๆ ของ แจ้ ดนุพล อาทิ ฝันสีทอง ของขวัญ นี่ต้องเรียกว่าย้อนคืนวันเวลาที่อบอุ่น-ระอุอยู่ในใจของเราได้เป็นอย่างดี ให้รายละเอียดของเสียงดนตรีอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว และตามติดกับความหลากหลายของเพลงไทยอีกหลายอัลบั้ม และที่โดดเด่นยิ่งคือ ดอกไม้ที่กลับมา โดย ปาน ธนพร แวกประยูร จากค่ายใบชา การบันทึกเสียงที่เยี่ยมยอดกับความสามารถของลำโพงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเที่ยงตรง แม่นยำ ราวกับนั่งฟังการบันทึกเสียงในอยู่ในห้องอัด ขนาดนี้ต้องเทใจให้กับ KEF LSX II LT แล้วละครับ
สุดท้ายของการทดสอบ ด้วยการต่อใช้งาน HDMI โดยเชื่อมต่อทีวีด้วยช่อง HDMI (eARC) เพื่อรับชมภาพยนตร์ จากรายการทีวี และ Netflix ความสมบูรณ์แบบของเสียงระดับนี้สามารถทดแทนลำโพงซาวด์บาร์ ได้ในทันที และอาจจะให้เสียงได้ลุ่มลึกรายละเอียดสูงกว่าด้วยซ้ำไปในแบบ Stereophonic ที่ดีเยี่ยมครับ
KEF LSX II LT เป็นลำโพงแอคทีฟ ที่สนองตอบการใช้งาน Wi-Fi Streaming ด้วยคุณภาพสุดยอดให้ความคุ้มค่า ลำโพงคู่นี้จึงเป็นประดุจเพื่อนคู่ใจของนักฟังเพลงอย่างแท้จริง
นวัตกรรมชั้นเลิศจาก KEF แห่งประเทศอังกฤษ หากคุณได้ตัดสินใจเป็นเจ้าของ นอกจากจะใช้งานสะดวกครบถ้วนความบันเทิงอย่างเต็มที่ในยุคสตรีมมิ่งแล้ว คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และดีไซน์ที่ทรงเสน่ห์นี้ จะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ KEF อย่างไม่มีใครเสมอเหมือน
KEF LSX II LT ราคา : 42,900 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/vgadz/ และ https://www.vgadz.com/kef
บริษัท วีแกดซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
โทร. 02-692-5216
